Sunday, July 27, 2025
  • Login
  • Register
spikewrite.com
  • Article
  • Review
  • Podcast
  • Fiction
  • Our Authors
No Result
View All Result
spikewrite.com
  • Article
  • Review
  • Podcast
  • Fiction
  • Our Authors
  • Login
  • Register
No Result
View All Result
spikewrite.com
No Result
View All Result

Before It Starts to Rain ก่อนพิรุณพรำกับยักษาแห่งความเป็นอื่น

ชวนอ่านนิยาย self-published น้ำดีจากปลายปากกาของนักเขียนไทย Orca

Jarurumpha ButhsribyJarurumpha Buthsri
in Literature, Novel, Review
Reading Time: 3 mins read
15
Home Literature
25
SHARES
77
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

Content Warning: บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศและความสัมพันธ์ร่วมสายเลือด

Before It Starts to Rain (雨が降る前に) โดย Orca

 

“What have I left, my friends, to see,

To cherish, whom to speak with, or

To listen to, with joy?

Lead me away at once, far from Thebes;

Lead me away, my friends!

I have destroyed; I have accursed, and, what is more,

Hateful to Heaven, as no other.”

– Sophocles, Oedipus the King

 

แม้นจะศึกษาในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการอ่านวิเคราะห์วรรณกรรมโดยตรง กระนั้นแล้ว ผู้เขียนก็ไม่ใคร่คิดว่าตัวเองมีคุณลักษณะสอดคล้องกับความเป็น “นักศึกษาวรรณกรรม” เท่าไหร่นัก สำนวน “แกะดำ” ก็ดูกล่าวเกินจริงไปเสียหน่อย แต่หากจะให้บรรยายความรู้สึกเช่นนี้ออกมาอย่างแน่ชัดก็ประดักประเดิดเหลือเกินจะกล่าว ซ้ำยังตอกย้ำความเป็นชนชั้นกลางตื้นเขินของตัวเองอีก ความเป็นอื่นคงเป็นมโนทัศน์เลื่อนลอยเช่นนี้ ยิ่งเราพยายามหาคำจำกัดความเพื่อนิยามมันมากเพียงใด ผลลัพธ์สุดท้ายก็มีแต่รั้นจะทำให้มันสูญสิ้นซึ่งคุณสมบัติของ “ความเป็นอื่น” มากขึ้นเท่านั้น เนื่องด้วยไม่ชำนิชำนาญในทฤษฎีวรรณกรรมมากนัก ผู้เขียนคงสามารถพูดถึงความเป็นอื่นได้แค่ในระดับผิวเผิน(และฉาบฉวย)ดังที่เห็น

มันคงเป็นเรื่องน่าเสียดายมิใช่น้อยหากเราเชื่อว่าวรรณกรรมที่ดีคือ วรรณกรรมที่เป็น “canon” และมีเนื้อหาถูกต้องสอนใจตามทำนองคลองธรรมของสังคมเพียงอย่างเดียว ท่ามกลางเวทีโต้แย้งขนาดย่อมถึงคุณลักษณะของ “วรรณกรรมที่ดี” (ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปตามโลกออนไลน์) ในฐานะนักศึกษาวรรณกรรมตัวเล็กตัวน้อยคนนึง ผู้เขียนกลับมองว่า “วรรณกรรมที่ดี” นั้นไม่มีอยู่จริง จะมีก็แต่วรรณกรรมที่ทำงานกับความรู้สึกทั้งด้านบวกหรือลบของเราได้เป็นอย่างดีต่างหาก ยิ่งกับความรู้สึกแปลกแยกไร้คำนิยามชวนอิหลักอิเหลื่อนี้แล้ว นวนิยาย “self-published” เรื่อง Before It Starts to Rain ของ Orca (ซึ่งไม่เข้าเคล้ากับคุณสมบัติของ “วรรณกรรมที่ดี” ข้างต้นข้อไหนเลย) ดูจะทำงานตอบสนองกับมันได้มีประสิทธิภาพและติดตาตรึงใจเป็นที่สุด

Before It Starts to Rain (雨が降る前に) โดย Orca

Before It Starts to Rain (ที่ผู้เขียนถือวิสาสะขอตั้งชื่อภาษาไทยให้ว่า ‘ก่อนพิรุณพรำ’) โดยนักเขียนนามปากกา Orca (ภาพประกอบและหน้าปกโดย Sasi Tee) อ้างอิงจากการจัดประเภทของแพลตฟอร์มวางขาย เป็นนวนิยายอิเล็กทรอนิกส์แนวชายรักชายอิงประวัติศาสตร์ (Historical Fiction) ฉากหลังของเรื่องตั้งอยู่ในจังหวัดฟุคุโอกะของญี่ปุ่นช่วงสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงได้ 8 ปี ท่ามกลางซากปรักหักพังของอุดมการณ์ชาตินิยมและประเทศซึ่งเคยเรืองเดชด้วยอำนาจทางการทหาร การตายของมารดาบังเกิดเกล้าบังคับให้ “ฮวน” หรือ “เทรุฮิโระ” ชายหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-สเปน กลับมาเหยียบแผ่นดินบ้านเกิดของตัวเองอีกครั้งเพื่อรับมรดก ทว่าการกลับมาเยือนญี่ปุ่นของฮวนในครั้งนี้มิได้ดำเนินไปด้วยแรงผลักดันอันทะเยอทะยานทางการเงินแต่อย่างใด ฮวนต้องกลับมาเผชิญหน้ากับบาดแผลในอดีตและต่อสู้กับสงครามในใจอีกครั้ง เพื่อเรียนรู้บทเรียนอันเรียบง่ายทว่าสำคัญยิ่ง นั่นคือ “ความสุขไม่ใช่เรื่องที่สายเกินไป”

Before It Starts to Rain มีองค์ประกอบการเล่าเรื่องอันชวนให้นึกถึงกลิ่นอายการ์ตูนวายหรือ มังงะ Yaoi (Boys’ Love) สมัยก่อนของญี่ปุ่นอยู่มิใช่น้อย ทั้งตัวเอกของเรื่องอย่าง “ฮวน” ที่ครอบครองความงามจนผู้ยลโฉมแทบลืมหายใจ (ซึ่งความงามเช่นนี้แหละก็นำภัยมาสู่ตัวเขา) ทั้งบรรยากาศซบเซาทะมึนทึมหลังสงคราม ทั้งโศกนาฏกรรมภายในครอบครัวที่ก้าวข้ามเส้นหมิ่นเหม่ทางศีลธรรมไปโดยสิ้นเชิง และบทสรุปสุดท้ายแสนหวานอมขมกลืน เมื่อผนวกเข้ากับภาษาบรรยายเรียบง่าย ตรงไปตรงมา ทว่าชวนติดตามแล้ว สำหรับผู้เขียน นวนิยายเรื่องนี้จึงมิได้ทำหน้าที่ประสิทธิ์ประสาทอารมณ์ได้ดีเป็นอย่างเดียว แต่ยังเป็นเครื่องย้ำเตือนว่า “วรรรณกรรมที่ดี” ก็ยังคงเป็น “วรรณกรรมที่ดี” อยู่วันยังค่ำ แม้นจะไม่ผ่านการตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์หรืออยู่นอกกระแสสุดชายขอบการมองเห็นของมวลชนมากแค่ไหนก็ตาม

คุณลักษณะโดดเด่นประการแรกของ Before It Starts to Rain คือรูปแบบการเล่าเรื่องแบบมุมมองบุคคลที่ 3 โดยมีการสลับตัวละครเจ้าของเรื่องเล่าไปมาเพื่อให้สัมพันธ์กับจังหวะท้องเรื่อง เป็นเรื่องปรกติในห้องเรียนวรรณกรรรมที่จะยอมรับกันว่ารูปแบบการบรรยายประเภทบุคคลที่ 1 นั้นจะทำให้เราสนิทชิดเชื้อกับตัวละครมากที่สุด ทว่าการเล่าเรื่องผ่านสายตาของพระเจ้าในนิยายเรื่องนี้กลับทำให้เราใกล้ชิดตัวละครได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซ้ำยังเข้าใจกระบวนการคิดของพวกเขาทะลุปรุโปร่ง ใครหลายคนอาจมองว่าวิธีการเล่าเรื่องเช่นนี้ขาดชั้นเชิง ไม่กระเตื้องความคิดอ่าน แต่ผู้เขียนคิดเห็นตรงกันข้าม การเลือก “บอก” ในสิ่งที่อยากบอกและให้เวลาแก่ “สิ่งที่บอก” ได้ทำงานกับคนอ่านต่างหากคือจุดเด่นสำคัญของนิยายเรื่องนี้ ยกตัวอย่างเช่นฉากการเผชิญหน้ากันครั้งแรกหลังเดินทางถึงฟุคุโอกะระหว่างฮวนกับน้องชายต่างบิดา “ทะดะโยชิ” ซึ่งได้บรรยายโดยมีทะดะโยชิเป็นจุดโฟกัสหลักเอาไว้ว่า

 

“ลำคอของทะดะโยชิแห้งผาก มือของเขาสั่น เขาจึงเอามือไปไขว้ไว้ข้างหลังเสีย ทะดะโยชิไม่ได้หวั่นไหวเพราะรูปลักษณ์ของเทรุฮิโระ ทะดะโยชิเห็นเรือนผมสีทองนั่นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย นัยน์ตาก้าวร้าวของเขาเขม่นดวงตาสีทองคำคู่นั้นมาแล้วไม่รู้กี่หนต่อกี่หน

แต่ครั้งนี้ เทรุฮิโระมีสิ่งหนึ่งที่ตอนเด็กไม่มี

อำนาจ

อิสรภาพ” (น. 48)

 

แม้จะมิได้บรรยายผ่านมุมมองบุคคลที่ 1 แต่เราก็สัมผัสถึงความประดักประเดิดที่ทะดะโยชิมีต่อฮวนได้อย่างแจ่มชัด คงเป็นเพราะอิทธิพลจากเอกลักษณ์การเขียนของ Orca ที่ใช้ประโยชน์จากภาษากายและกิริยาท่าทางของตัวละครอย่างเต็มที่ ทะดะโยชิชิงชังฮวน แต่ในขณะเดียวกันก็หวาดหวั่น เนื่องจากความกลัว เจ้าตัวจึงเก็บมือไพล่ไว้ข้างหลัง หากฉากนี้เปลี่ยนการบรรยายเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 แทน เราคงไม่มีทางรับรู้ความรู้สึกแอบซ่อนตรงนี้เพราะคนถือตัวอย่างทะดะโยชินั้นไม่มีวันที่จะยอมรับออกมาเต็มปากว่าตัวเองกลัวพี่ชายต่างบิดา แม้นจะเป็นเพียงในสำนึกก็ตาม       

รูปแบบการเล่าเรื่องอีกประการที่น่าสนใจของ Before It Starts to Rain คือการแทรกบทกลอน (ทั้งกลอนเปล่าและโคลงสี่สุภาพ) เรื่องเล่ามุขปาฐะ และเกล็ดประวัติศาสตร์นอกกระแสต่าง ๆ ลงไปในเรื่อง เนื่องจากตัวผู้เขียนไม่สันทัดการอ่านกลอนภาษาไทยนัก จึงอาจพูดถึงได้ไม่ลุ่มลึกเท่าที่ควร กลอนและเรื่องเล่าซ้อนเรื่องเล่าในนิยายทำหน้าที่นำเสนอพล็อตรอง (subplot) ของเรื่่อง ซึ่งก็คือ “ตำนานยักษ์กินน้ำฝน” อันมีส่วนเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับฮวนและตัวละครอื่น ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ บทเปิดของนิยายก็ขึ้นต้นด้วยตำนานดังกล่าวนี้เช่นเดียวกัน

 

“‘ลูกเอ๋ยจงจดจำไว้ ยามใดที่ฝนตก เจ้าต้องสำรวมอยู่ในบ้าน อย่าออกไปไหน พวกยักษ์มันจะผุดขึ้นมาจากนรก พวกมันขึ้นมาดื่มน้ำฝน อันเป็นน้ำตาแห่งทวยเทพ หากถูกยักษ์เห็นเข้า พวกมันจะช่วงชิงวิญญาณและควักหัวใจของเจ้าไป’” (น. 9)

 

เมื่อถูกใช้เป็นบทเปิดของนิยาย แน่นอนว่าย่อมต้องมีความสำคัญกับเนื้อเรื่อง ความจริงแล้วตำนานดังกล่าวเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าหลอกเด็กที่ “โคคิ” เด็กหนุ่มวัยรุ่นกำพร้าประจำวัดชิมโบจิถูกพร่ำสอนมา แต่เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไประยะนึง ทั้งโคคิและฮวนต่างก็ตีความตำนานยักษากินฝนเรื่องนี้ต่างออกไป จากนิทานปากต่อปากธรรมดากลายเป็นสัญญะสำคัญของนิยายเรื่องนี้

Sessen Doji Offering His Life to an Ogre (Japanese Oni), hanging scroll, color on paper, c. 1764. Painting by Soga Shōhaku (1730–1781).

“ยักษ์” เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ว่าจะอยู่ในเรื่องเล่าหรือตำนานปรัมปราจากสัญชาติไหน ๆ ก็มีจุดร่วมกันตรงที่รูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวและนิสัยก้าวร้าวโหดร้าย ลักษณะสำคัญอีกประการคือ ยักษ์มักจะอาศัยแยกตัวออกห่างจากสังคมมนุษย์ โอนิ (鬼) จากนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นซ่อนตัวตามป่าเขาและถึงขั้นโดนปาถั่วขับไล่จากชาวบ้านในเทศกาลเซ็ตซึบุน ยักษ์ตาเดียวไซคลอปส์โพลิเฟมัส (Polyphemus) จากมหากาพย์โอดิสซีพำนักพักพิงบนหมู่เกาะห่างไกลผู้คน จะเห็นได้ชัดว่าถ้าหากพูดถึง “ความเป็นอื่น” แล้ว ยักษ์คงจะเข้าเค้าได้อย่างเหมาะเจาะ ทั้งชาวบ้านและโอดิสซีต่างไม่มองว่ายักษ์เป็นพวกเดียวกันกับมนุษย์ แม้นในตำนานจะเล่าชัดเจนว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีที่ทางตามธรรมชาติเช่นเดียวกันกับหมูหมากาไก่ แต่มนุษย์เราก็ยังรู้สึกว่าต้องกำจัดขับไล่ยักษ์ออกไป ยิ่งประสมร่วมเข้ากับคุณสมบัติด้านอุปนิสัยและหน้าตาที่ตรงกันในแต่ละตำนานของแต่ละท้องที่ด้วยแล้ว อาจสรุปได้ว่ายักษ์คือสัญญะของความเป็นอื่น

สนับสนุนสปอนเซอร์ Spike Write สนับสนุนสปอนเซอร์ Spike Write สนับสนุนสปอนเซอร์ Spike Write
ADVERTISEMENT

 

แล้วข้อสรุปตรงนี้เกี่ยวข้องเยี่ยงไรกับนิยายเรื่องนี้?

 

เพราะฮวนคือยักษ์ที่ผุดขึ้นมาจากนรกเพื่อช่วงชิงวิญญาณและควักหัวใจของมนุษย์โดยแท้

 

The Blinding of Polyphemus from the Room of Ulysses in the Palazzo Poggi, Bologna by Pellegrino Tibaldi (1550–51).

หากความเป็นอื่นมีร่างมนุษย์ ฮวนก็คือความเป็นอื่น ภายใต้เบื้องหน้าของความหยิ่งทระนงในอิสรภาพและอำนาจที่ได้รับมาเมื่อกาลหลัง ฮวนจมปลักกับวิถีชีวิตแบบพวกเขาพวกเราตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่ชาติกำเนิดของเขา ถึงมารดาของฮวนจะเป็นหญิงงามชาวญี่ปุ่นแท้ แต่กรรมพันธ์จากบิดาคนขาวกลับแรงกว่า แม้นฮวนจะสื่อสารญี่ปุ่นได้คล่องแคล่วมากเพียงใด แต่เรือนผมสีทองกับนัยน์ตาสีทองคำของเขาก็ไม่อาจก้าวข้ามอคติทางชาติพันธุ์ในช่วงเวลาที่อุดมการณ์ชาตินิยมเข้มข้นสุดขีดได้ ฮวนถูกตีตัวออกห่างตั้งแต่เด็ก ถูกรุมล้อเลียนกลั่นแกล้ง รอยร้าวแรกปริแตกตั้งแต่เข้าเรียนในชั้นประถม สังเกตได้จากบทบรรยายข้างล่าง

 

สนับสนุนรายได้ของ Spike Write สนับสนุนรายได้ของ Spike Write สนับสนุนรายได้ของ Spike Write
ADVERTISEMENT

“ผมสีทองหยักศกทำให้ฮวนโดดเด่นสะดุดตา ตัวก็สูงชะรูดนำคนอื่น ๆ ในชั้นเรียน ทุกสิ่งในร่างกายของเขาแลดูแปลกแยก ไม่ว่าจะเป็นดวงตา จมูก ปาก โครงหน้า เขารู้สึกเหมือนเป็นจุดขาวบนผ้าย้อมสีดำ จุดที่ทำให้ผ้าหมดความบริบูรณ์” (น. 35)

 

มิเพียงเท่านี้ มนุษย์เราหากได้มองสิ่งใดว่าแปลกแยกผิดแผกจากตัวเองแล้ว เราย่อมปฏิบัติต่อสิ่ง ๆ นั้นด้วยมาตรฐานทางสังคมที่แตกต่างออกไปจากครรลองปรกติที่เรายึดถือ เพราะฮวนเป็นยักษา เขาจึงถูกปฏิบัติราวกับไม่ใช่คน เมื่อไม่ถูกยอมรับว่าเป็นพวกเดียวกัน ฮวนจึงยอมขึ้นเรือไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สเปนตอนอายุครบ 14 ปีบริบูรณ์แม้นจะหวงแหนทะดะโยชิกับแม่เลี้ยงของเขามากเพียงใดก็ตาม

ชั่วขณะหนึ่งที่อ่านนิยายเรื่องนี้ ตัวละครฮวนทำให้ผู้เขียนนึกถึงบทละครโศกนาฏกรรมกรีกเรื่อง เอดิปุส เร็กซ์ (Oedipus Rex) ของ โซโพคลีส (Sophocles) อยู่มิใช่น้อย นักอ่านส่วนใหญ่อาจรู้จักเอดิปุสจากวีรกรรม “ฆ่าพ่อล่อแม่” อันเลื่องลือของเจ้าตัว ห้องเรียนวิชาการอ่านวรรณกรรมตอนปี 2 ทำให้ผู้เขียนทราบว่าความตลกร้ายชวนหัวของบทละครเอดิปุสอยู่ที่การเล่นกับ “irony” และ “paradox” ของตัวเรื่อง เมื่อหายนะเกิดขึ้นในประเทศ กษัตริย์ต่างชาติอย่างเอดิปุสจนปัญญาจะหาทางแก้ไข อ้างว่าการตายของกษัตริย์องค์ก่อนไม่ใช่ธุระกงการของเขาที่เป็นคนต่างชาติ ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้ว เจ้าตัวสืบเชื้อสายโดยตรงมาจากไลอัส กษัตริย์องค์ก่อนซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ของเอดิปุสนั่นเอง 

Joseph Blanc, The murder of Laïus by Oedipus, 1867, Paris, Ecole Nationale Supérieure des Beaux-Arts

การเล่นกับความเป็นคนนอกคนในของเอดิปุสเชื่อมโยงกับฮวนอย่างมีนัยสำคัญ เอดิปุสที่แท้จริงแล้วเป็นคนในกลับถูกปฏิบัติราวกับเป็นคนนอก ความเป็นคนนอกส่งผลให้กษัตริย์หนุ่มลงมือก่อวีรกรรมสุดอุจาดโดยไม่รู้ตัว กรณีของฮวนก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ความเป็นคนนอกของฮวนทำให้เขาไม่ถูกปฏิบัติด้วยเยี่ยงมนุษย์ ร่างกายและจิตใจของยักษาเยี่ยงฮวนถูกล่วงละเมิดโรมรันเพียงเพราะอยากจะชิมน้ำฝนจากสายใยของความเป็นครอบครัว แม้กระทั่งในสายตาของมารดาบังเกิดเกล้า ฮวนยังไม่ถูกมองว่าเป็น “ฮวน” หรือเป็นมนุษย์มีเลือดมีเนื้อคนหนึ่ง เขากลายเป็นวัตถุสนองความต้องการทางเพศ มีหน้าที่แค่เพียงชดเชยชีวิตที่ล้มเหลวของตัวละครอื่นในเรื่อง ชวนให้ตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้ว ใครกันแน่ที่เป็นยักษาผุดขึ้นมาจากหลุมนรก

กระนั้นแล้ว แม้นเรื่องราวชีวิตของฮวนจะชวนเศร้าระทมทุกข์มากเพียงใด หลังพายุฝนโหมกระหน่ำ แสงอาทิตย์สว่างจ้าประดับท้องฟ้าโปร่งแจ่มใสย่อมรอเราอยู่เสมอ ความรักชวนหมิ่นเหม่ศีลธรรมระหว่างฮวนกับโคคิและฮวนกับทะดะโยชิกลับเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ฟ้าหลังฝนที่สวยงามที่สุดของนิยายเรื่องนี้ 

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียอรรถรสในการอ่าน ผู้เขียนคงพูดได้แค่ว่า ความสัมพันธ์ทั้งสองรูปแบบนี้ไม่ได้ถูกนำเสนอออกมาอย่างฉาบฉวยและขวานผ่าซากแต่อย่างใด ฮวนกับโคคิเชื่อมโยงกันได้เพราะความเป็นคนนอกอันไม่ตรงทำนองคลองธรรมของสังคมญี่ปุ่น ทว่าทั้งสองกลับเข้าใจและยอมรับว่าอีกคนเป็นมนุษย์เฉกเช่นเดียวกับตนเองผ่านการนำเสนอว่าตำนานยักษาดื่มน้ำฝนอันน่าหวาดหวั่นนั้น แท้จริงแล้วยักษาเป็นคนรักในชาติปางก่อนของเทพยดา ที่ปีนขึ้นมาจากรอยแยกแผ่นดินก็เพื่อมาพบอดีตคนรักของตัวเองนั่นเอง ส่วนฮวนกับทะดะโยชิเป็นความสัมพันธ์อันไม่เข้ารูปเข้ารอยเพราะบาดแผลเหวอะหวะในอดีตมากกว่า เมื่อบาดแผลตรงนี้ได้รับการรักษาจนสมานหายดี ทั้งฮวนและทะดะโยชิต่างก็ได้เรียนรู้ว่าต่างฝ่ายต่างห่วงหาอาทรณ์กันและกันมาโดยตลอด จะเห็นได้ว่าบทสรุปแบบนี้ตั้งคำถามถึงจารีตอันดีงามของสังคมอยู่มิใช่น้อย ในเมื่อความสัมพันธ์ที่ถูกต้องตรงทำนบศีลธรรมรั้งแต่จะทำร้ายตัวละครในเรื่องจนต้องดิ้นขลุกทุรนทุรายตายมิตายแหล่ ทั้งสายสัมพันธ์แม่ลูกอันบิดเบี้ยว พ่อลูกแสนห่างเหิน และพี่น้องเคล้าความเกลียดชัง เราในฐานะผู้อ่านบนหอคอยงาช้างมีสิทธิมากแค่ไหนที่จะไปตัดสินพวกเขาหรือ คงจะเป็นดั่งที่บทบรรยายข้างล่างกล่าวไว้ บางครั้งมนุษย์เราก็ต้องยอมให้กายเผาไหม้ด้วยความชั่วช้าเพื่อไขว่คว้าและแบ่งปันความอบอุ่นให้ผู้อื่น

 

“แม้นกุศลบุญจะนำหนุนให้กายและใจอยู่เย็นเป็นสุข ส่วนอกุศลมูลนั้นเล่าเผาผลาญร่างกายจนทรมานเจียนมอดไหม้ พระเป็นเจ้าองค์ใดก็มิอาจรู้แจ้งถึงจิตใจมนุษย์ ว่าเหตุใดหนอ ปุถุชนจึงมิอาจละความรุ่มร้อน ละรากเหง้าแห่งความชั่ว เลือกรับแต่ความร่มเย็น

เย็นกายเย็นใจมากเกินไปรังแต่จะหนาวเหน็บ มิสู้ป่วนปั่นเปลวเพลิงให้ลุกโหม ทั้งตนเองและผู้อื่นจะได้อบอุ่นขึ้น นั่นแลคือคำตอบ” (น. 191)

 

ชื่อเรื่องของนิยายว่า Before It Starts to Rain ก็สอดรับไปได้ดีกับบทสรุปในตอนจบ เพราะท้องฟ้ามักจะมืดครึ้มที่สุดก่อนฝนพรำเสมอ เปรียบได้กับการเดินทางเพื่อค้นหาความสุขของตัวละครในเรื่อง ต่างคนต่างก็ต้องเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่มืดครึ้มที่สุดในชีวิตของตัวเอง เมื่อฝนหยุดตก เมฆดำจางหาย รุ้งประดับประดาล้อกับแสงสว่างสาดส่อง ความทุกข์ก็จะถูกชะล้างไปกับน้ำฝน ยักษาอสุรีได้พบปะกับอดีตคนรักของมันอีกครั้ง 

มิหนำซ้ำ บทสรุปเช่นนี้ยังสอดคล้องกับเซ็ตติ้งสภาพบ้านเมืองหลังสงครามจบลง แม้นสงครามจะทิ้งรอยแผลบาดลึกไว้มากเพียงใด แต่เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป พร้อมคิดวิธียับยั้งมิให้ความเป็นพวกเขาพวกเรากับอุดมการณ์คลั่งชาติย้อนคืนมาทำร้ายตัวเราเองอีก ดังจะเห็นได้จากฉากที่ฮวนชวนทะดะโยชิย้ายไปอยู่โยโกฮามะด้วยกันตอนท้ายเรื่องแทนที่จะกลับสเปน เพราะท่าเรือโยโกฮามะเป็นสัญลักษณ์แทนการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขระหว่างคนญี่ปุ่นกับคนต่างชาติ การกระทำของฮวนจึงเป็นการทำลายกรอบที่แบ่งแยกความเป็นคนนอกคนใน ลบล้างความเป็นอื่น แต่ในขณะเดียวกันก็ยอมรับความเป็นปัจเจกชนของตัวเองและทะดะโยชิ 

(จากซ้ายไปขวา) นกน้ำตาลปั้นของนกกระเรียนกับหมาจิ้งจอก – Stillwater, Life in An Alpha Men’s Prison – The Kiss of the Lamb

แม้นจะอ่านซ้ำ ๆ อีกกี่รอบ Before It Starts to Rain ของ Orca ก็ยังคงเป็นนวนิยายขึ้นหิ้งสำหรับผู้เขียนเสมอ ทั้งภาษาบรรยายเรียบง่ายแต่ติดตรึง ทั้งเนื้อหาเคล้าน้ำตาทว่าปลอบประโลมใจ ทั้งการไม่เดินตามครรลอง “วรรณกรรมที่ดี” ดั่งที่ถกเถียงกันทั่วไปบนโลกออนไลน์ นิยายเรื่องนี้มีแนวทางและสิ่งที่ต้องการเล่าแจ่มชัดเป็นของตัวเองแม้นจะไม่ผ่านการดูแลจากสำนักพิมพ์โดยตรง นามปากกา Orca ยังมีนวนิยายน่าสนใจเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น นกน้ำตาลปั้นของนกกระเรียนกับหมาจิ้งจอก นิยายแนวแฟนตาซีสืบสวนสอบสวนยุคเอโดะอันมีคู่หูนักสืบเคมีแสนกลมกล่อมเป็นตัวดำเนินเรื่อง Stillwater, Life in An Alpha Men’s Prison นิยายดราม่าแนวคนคุกสุดเข้มข้น และ The Kiss of the Lamb นิยายประเภท “retelling” ที่ชวนมองความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูกับยูดาสในมุมมองใหม่

นวนิยายทั้งหมดของ Orca ที่กล่าวถึงมาชวนให้ผู้เขียนอดรู้สึกเศร้าซึมมิใช่น้อย แท้จริงแล้ว วงการวรรณกรรมไทยนั้นมีนักเขียนมากความสามารถและผลงานน้ำดีพล็อตแปลกใหม่อีกมากมาย เพียงแต่พวกเขาไม่มีต้นทุนหรือไม่ได้รับโอกาสมากพอที่แสงจะส่องถึง ซึ่งประเด็นนี้ก็ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังที่ต้องแก้ไขกันต่อไป คงจะเป็นเรื่องน่าเสียดายหากวงการหนังสือบ้านเรายังคงหมกมุ่นอยู่กับรางวัลและเกียรติยศกลวงโบ๋แห่งชาติต่อไปเรื่อย ๆ ผู้เขียนขอทิ้งท้ายบทความนี้ด้วยโคลงสี่สุภาพจาก Before It Starts to Rain ที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษ

 

ครั้นค่ำคืนเคลื่อนคล้อย อัมพร สว่างแน

มาสครั่นทิวากร หลีกหลู้

รังสีแสบแผดร้อน ยักษ์แอบ ลงเอย

เพลิงแดดผ่าวฤๅสู้ เล่ห์ล้ำลำนำทอง

 

ครู่ยามโมงย่างข้าม แลดวง ไฟรอน

สูรหลบล้าโรยร่วง ขยับย้าย

บุหลันแล่นครองห้วง เวหาส อีกครา

วันวกเวียนวนหว้าย ตราบฟ้าภิณท์พัง

 

บรรณานุกรม

  1. Orca. Before It Starts to Rain. Self-Published, 2018.
  2. Sophocles. Oedipus the King. Minneapolis, University Of Minnesota Press, 1998.

Related

Share16Tweet4Share
Jarurumpha Buthsri

Jarurumpha Buthsri

She/Her. Japanese Literature Enthusiast. Part-Time Writer. Full-Time Chronic Procrastinator. ชอบอ่านไบเบิล มีความฝันว่าอยากเขียนนิยายอุทิศให้ ฟลอเรียน แบรนด์ กับ นอร์ตัน แคมป์เบลล์ สักเรื่อง

RelatedPosts

หนังสือสายพันธุ์ประหลาด! ชวนอ่าน 5 หนังสือ Weird Fiction
Article

หนังสือสายพันธุ์ประหลาด! ชวนอ่าน 5 หนังสือ Weird Fiction

July 8, 2025
37
Steppenwolf เมื่อการค้นพบตัวเองคือ การดำดิ่งสู่ขุมนรกของจิตใต้สำนึก
Article

Steppenwolf เมื่อการค้นพบตัวเองคือ การดำดิ่งสู่ขุมนรกของจิตใต้สำนึก

July 1, 2025
34
‘ยิ่งใกล้ชิดยิ่งห่างไกล?’ เมื่อความรักถูกล็อกดาวน์ใน Rabuka
Article

‘ยิ่งใกล้ชิดยิ่งห่างไกล?’ เมื่อความรักถูกล็อกดาวน์ใน Rabuka

June 28, 2025
111
‘เสือสมิงกับราโชมอน’ อัตถิภาวนิยมใน Bungo Stray Dogs
Literature

‘เสือสมิงกับราโชมอน’ อัตถิภาวนิยมใน Bungo Stray Dogs

June 20, 2025
195

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ขาไก่หิมพานต์ แฮ่ แฮ่ ขาไก่หิมพานต์ แฮ่ แฮ่ ขาไก่หิมพานต์ แฮ่ แฮ่

Recent Posts

Before It Starts to Rain ก่อนพิรุณพรำกับยักษาแห่งความเป็นอื่น

Before It Starts to Rain ก่อนพิรุณพรำกับยักษาแห่งความเป็นอื่น

July 15, 2025
หนังสือสายพันธุ์ประหลาด! ชวนอ่าน 5 หนังสือ Weird Fiction

หนังสือสายพันธุ์ประหลาด! ชวนอ่าน 5 หนังสือ Weird Fiction

July 8, 2025
Knaresborough Viaduct

เที่ยว Knaresborough : เสน่ห์แห่งกาลเวลา ริมฝั่งแม่น้ำนิดด์

July 4, 2025
Steppenwolf เมื่อการค้นพบตัวเองคือ การดำดิ่งสู่ขุมนรกของจิตใต้สำนึก

Steppenwolf เมื่อการค้นพบตัวเองคือ การดำดิ่งสู่ขุมนรกของจิตใต้สำนึก

July 1, 2025
‘ยิ่งใกล้ชิดยิ่งห่างไกล?’ เมื่อความรักถูกล็อกดาวน์ใน Rabuka

‘ยิ่งใกล้ชิดยิ่งห่างไกล?’ เมื่อความรักถูกล็อกดาวน์ใน Rabuka

June 28, 2025
  • Gap.Bumseeker

    Let’s talk ! คุยกับ Gap.Bumseeker การเดินทางที่ไม่มีคำว่ากลัว

    7123 shares
    Share 2892 Tweet 1763
  • รีวิว EDIFIER W820NB Plus หูฟังไร้สาย ตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling รองรับ LDAC

    190 shares
    Share 77 Tweet 47
  • รีวิว กระทะเหล็กเผา ตาตีมือ รุ่นโปร

    144 shares
    Share 79 Tweet 27
  • 16 ข้อสังเกตที่นักเขียนควรรู้เกี่ยวกับบทพูดในชีวิตจริง : วิธีเขียนบทสนทนา ที่สมจริง

    102 shares
    Share 49 Tweet 22
  • High Fantasy vs. Low Fantasy: แฟนตาซีไหนดีกับใครบ้าง

    77 shares
    Share 37 Tweet 17
Hamlet Hamlet Hamlet
ADVERTISEMENT

About Us

Spike Logo

Categories

  • Article
  • Download
  • Interview
  • Literature
  • Music
  • Novel
  • Podcast
  • Poem
  • Review
  • Short Story
  • Sound
  • Sport
  • Travel Trip
  • Uncategorized
  • writing

Tag

Before It Starts to Rain bungo stray dogs Cigarettes After Sex Dream Pop existentialism features post Inio Asano Internship literature liverpool manga Medusa Music Orca Rabuka Review shoegaze short stories Short Story Short Story Season short story winter Sound steppenwolf travel trigger warnings weird fiction William Shakespeare การอ่าน คณะประพันธกรจรจัด คำเตือน ตำนานกรีก-โรมัน ท่องเที่ยว นิวัต พุทธประสาท บทกวี บทความ ฝึกงาน มันฮวา วรรณกรรม วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา หิมะแดง เครื่องเสียง เมดูซ่า เม่นวรรณกรรม เรื่องสั้น โคนัน

Review

The Jug & Bottle โรงแรมในลิเวอร์พูล ที่อยู่นอกเมือง

The Jug & Bottle

การนอนนอกเมืองลิเวอร์พูลนั้นไม่ได้ลำบากอะไรเลย โดยเฉพาะถ้าได้นอนโรงแรม Jug & Bottle ที่มีราคาสมเหตุสมผล มีประวัติยาวนาน สะอาด สวยงาม และไม่ควรพลาดเดินเดี่ยวที่ Heswall
รีวิว Rega Planar 1 : เครื่องเล่นแผ่นเสียง งบประมาณต่ำที่ดีที่สุด…ในโลก…ตลอดกาล?

Rega Planar 1

Rega Planar 1 เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงราคาประหยัดที่พัฒนามาจากรุ่น RP1 ด้วยการออกแบบใหม่ ใช้งานง่าย ปรับปรุงโทนอาร์ม RB110 และคุณสมบัติเด่นมากมาย เสียงของมันแม่นยำและมีพลัง ฿14000

© 2025 Spike Write - Premium News & Magazine blog by Spike Write.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In

Add New Playlist

  • Login
  • Sign Up
  • Cart
No Result
View All Result
  • Article
  • Review
  • Podcast
  • Fiction
  • Our Authors

© 2025 Spike Write - Premium News & Magazine blog by Spike Write.

This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy.
Are you sure want to unlock this post?
Unlock left : 0
Are you sure want to cancel subscription?
-
00:00
00:00

Queue

Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00