Table of Contents
หลายคนอาจจะกำลังมองหาโรงแรมหรือที่พักราคาเหมาะสมในเมืองลิเวอร์พูล โดยเฉพาะในวัน Match Day แน่นอนว่าราคา โรงแรมในลิเวอร์พูล ช่วงนั้นจะมีราคาสูงพอสมควร มีคนถามผมว่าพอจะมีทางเลือกอื่นอีกไหม เพราะไม่รู้จะพักที่ไหน การยอมจ่ายเงินโรงแรมในเมืองก็สมเหตุสมผลพอสมควรถ้าเรามีบัดเจ็ดเพียงพอ สำหรับรีวิวนี้ผมขอพาไปโรงแรม The Jug & Bottle ที่พักนอกเมืองลิเวอร์พูล และจะรีวิวว่าวันที่จะต้องไปดูฟุตบอลต้องเดินทางไปอย่างไรอย่างละเอียดทุกขั้นตอน
01
of 05
เดินทางถึงลิเวอร์พูล
การไปลิเวอร์พูลนั้นสามารถเดินทางได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถบัส เช่ารถ หรือรถไฟ ทั้งมาจากลอนดอน หรือมาจากเอดินบะระประเทศสก็อตแลนด์ แต่เส้นทางทางที่สะดวกที่สุดก็คือรถไฟ รถไฟจากลอนดอนมีสายตรงมาถึงใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก เกือบๆ สามชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งในแต่ละวันมีหลายเที่ยวให้เลือก ขึ้นจากสถานี London Euston มาลงที่สถานี Liverpool Lime St ตั๋วรถไฟสามารถสั่งจองผ่านเวบไซต์ล่วงหน้าได้หลายเดือน
ผมเดินทางมาลิเวอร์พูลเพื่อชมการแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2023-2024 ซึ่งก็คือนัดอำลาเยอร์เก็น คล็อปป์ นั่นเอง ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดจะมาชมการแข่งขัน ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ไม่ได้วางแผนอะไรเลย คิดว่ามาเที่ยวลิเวอร์พูลเฉยๆ จึงมองมาหาโรงแรมที่คิดว่าน่านอนน่าอยู่ ส่วนตัวอยากนอนโรงแรมที่เป็น Pub แบบอังกฤษมานานแล้ว โรงแรมแบบนี้ส่วนใหญ่จะให้บรรยากาศไม่เหมือนโรงแรมมาตรฐาน จึงเลือกโรงแรมเล็กๆ อย่าง The Jug & Bottle ที่มีรูปแบบเป็น B&B (Bed&Breakfast) หรือที่พักพร้อมอาหาร ซึ่งเป็นที่พักยอดนิยมในอังกฤษมานานแล้ว
โรงแรม The Jug & Bottle นั้นตั้งอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำเมอร์ซี ดังนั้นถ้านั่งรถไฟมาลงสถานี Liverpool Lime St ถ้ายังไม่เหนื่อยหรือมาถึงช่วงสายๆ ผมแนะนำว่าควรจะใช้บริการฝากกระเป๋าเดินทางเอาไว้ที่สถานีซึ่งราคาไม่แพง แล้วไปเดินเล่นในเมือง หาข้าวกิน หรือเดินช็อปปิ้งที่ Liverpool One ก่อนเข้าโรงแรม
ร้านอาหารในลิเวอร์พูลมีให้เลือกกินมากมาย แต่ต้องเช็ควันเวลาในการเปิดให้ดี เพราะแต่ละร้านมีเวลาเปิดปิดไม่เหมือนเมืองไทย และให้ดีควรจองล่วงหน้า ถ้าวอร์คอินมีโอกาสพลาดได้เช่นกัน แต่ถ้าใครไม่สนใจเรื่องกินพวกฟาสต์ฟู้ดมีขายในลิวเอร์พูลวันหลายร้อนสำหรับอาหารจีนในลิเวอร์พูล Mei Mei และอีกร้านคือ Tai pan buffet ทั้งสองร้าน จะอยู่ออกมาจากโซนลิเวอร์พูลวัน
แต่ถ้าใครไม่อยากกินฟาสต์ฟูด ลองกินร้านไก่ย่าง Nando ซึ่งอยู่ในลิเวอร์พูลวัน รับรองว่าอิ่มอร่อย เครื่องเคียงมีข้าวคล้ายๆ ข้าวผัดเนย ส่วนไก่ย่างมีหลายแบบให้เลือก ถ้าใครไปครั้งแรกไม่ต้องกลัวว่าจะสั่งอย่างไร เดินไปต่อคิว พนักงานจะมารับเราแล้วจดคิว ให้เราบอกชื่อของเรา (ควรใช้ชื่อที่ฝรั่งอ่านง่ายๆ แต่เราต้องจำได้นะว่าเราตั้งชื่ออะไรไว้) จากนั้นก็นั่งรอเรียกตามคิว พอไปถึงโต๊ะเขาจะให้เมนูมาพร้อมกับเบอร์โต๊ะ พอดูเมนูแล้วว่าจะสั่งอะไร ให้เดินไปที่เคาน์เตอร์จากนั้นบอกเบอร์โต๊ะ สั่งอาหาร ถ้าพูดอังกฤษไม่ได้ก็ชี้ๆ ตามเมนู จากนั้นก็จ่ายเงิน กลับมานั่งรอที่โต๊ะ พนักงานจะนำอาหารมาเสิร์ฟ
หรือใครอยากซื้อของสโมสรลิเวอร์พูล ที่ลิเวอร์พูลวันมีลิเวอร์พูลช็อปของสโมสรตั้งอยู่ ซื้อของที่นี่จะสะดวกกว่าซื้อในช็อปที่สนามแอนฟิลด์ในวันแข่งซึ่งคนเยอะมาก แต่อยากกระซิบว่าชุดแข่งต่างๆ ที่ขายในไทยบางตัวราคาถูกกว่าที่นี่นะครับ ซื้อของที่ไม่มีขายจากเมืองไทยจะคุ้มกว่า หรือถ้าไม่คิดอะไรมากก็จัดไปเลยเพราะที่นี่พร้อมกว่าในแง่ Accessories ทั้งการสกรีนเบอร์เสื้อในแบบต่างๆ หรือขนาดเสื้อ
02
of 05
ประวัติโรงแรม The Jug & Bottle โรงแรมในลิเวอร์พูล ที่อยู่นอกเมือง
นอกจากที่นี่จะเป็นโรงแรม B&B แล้ว Jug & Bottle ยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานหลายร้อยปี การได้นอนในสถานที่มีเรื่องราวในอดีตย่อมทำให้เราได้รับบรรยากาศที่แตกต่างไปจากโรงแรมทั่วไป และประวัติศษสตร์ของที่นี่ก็น่าสนใจไม่น้อย
การตกแต่งของ The Jug & Bottle ทำให้หวนนึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของอาคารแห่งนี้ ปัจจุบัน บริษัท Stange&Co เป็นเจ้าของมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 ก่อนหน้านั้นโรงแรมและผับแห่งนี้ไม่ได้ใช้ชื่อ The Jug & Bottle ชื่อเดิมของอาคารคือ ‘Hill House’ ที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1870 ซึ่งเป็นบ้านสำหรับพักอาศัยมาหลายปีจนกระทั่งศตวรรษที่ 20
ในช่วง ค.ศ. 1901 เป็นที่พักอาศัยของครอบครัวพ่อค้าฝ้ายในลิเวอร์พูล นามว่า Meadows Arnold Frost และ Rosalie ภรรยาของเขาได้ย้ายมาพักที่ฮิลล์เฮาส์ แต่เดิมพวกเขาอาศัยอยู่ที่ Chester การย้ายมาอยู่ที่ Wirral เนื่องจากการเชื่อมต่ออุโมงค์รถไฟใต้แม่น้ำเมอร์ซีในปี ค.ศ.1886 ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง เจ้าของคนต่อมาคือ พันตรี Pooley ซื้อบ้านหลังนี้และทำการปรับปรุงต่อเติมให้ดีขึ้นจนกลายเป็นบ้านสำหรับครอบครัวใหญ่
เขตเมือง Wirral กำลังมองหาสำนักงานแห่งใหม่ โดยตั้งเป้าไปที่สองแห่ง แห่งแรกคือ Hill House แห่งที่สองคือ Heswell Castle ซึ่งเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหญิง แต่เดิมเป็นบ้านของ Tytherington ในปี ค.ศ. 1865 แต่ภรรยาของเขาไม่ชอบ เขาจึงขายบ้านหลังนี้ในช่วงทศวรรษที่ 1890 และกลายมาเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหญิงในช่วงปี ค.ศ. 1930 แต่อาคารหลังนี้ทรุดโทรมลงมาก และพังลงมาในที่สุด จนทำให้เกิดถนน Castle Drive และ Castle Buildings บนถนน Telegraps
สภาเมืองจึงเลือก Hill House ทำการปรับปรุงเพื่อใช้งาน จนกระทั่งในปี ค.ศ.1972 ได้มีการจัดระเบียบการปกครองท้องถิ่นอีกครั้ง สำนักงานสภาถูกรวมศูนย์ไปที่ Wallasey และ Birkenhead ในที่สุด Hill House ก็ถูกสภาเมืองประกาศขาย ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1985 โดยสภาเมืองขายฮิลล์เฮาส์ให้กับนักพัฒนาในท้องถิ่น J.L.Wilkinson Developments Ltd. Cheshire Hotels เปิดดำเนินการเป็นเวลาหลายปีในชื่อ ‘Hill House Hotel’ ก่อนที่จะขายให้กับ Bernie Inns ซึ่งต่อมาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1992 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘Jug & Bottle’ จนปัจจุบัน
เมื่อทราบประวัติของโรงแรมแล้วคงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมถึงเลือกพักที่นี่นะครับ เพราะเมันเป็นโรงแรมเก่าแก่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน และที่น่าสนใจใครที่อยากลองพักโรงแรมเล็กๆ ที่เป็นผับสักครั้ง ที่นี่คือสถานที่ดีมากๆ แห่งหนึ่ง
03
of 05
การตกแต่ง และความสะดวกสบาย The Jug & Bottle โรงแรมในลิเวอร์พูล ที่อยู่นอกเมือง
ตอนที่ผมเข้าไปในผับครั้งแรกก็ประทับใจมากกับเคาน์เตอร์บาร์ที่ทำจากไม้สวยงาม เมื่อขึ้นไปถึงห้องที่อยู่ชั้นสอง การตกแต่งเป็นแบบชนบทอังกฤษที่เพียบพร้อม แต่ละห้องจะตกแต่งไม่เหมือนกันแล้วแต่พื้นที่ของห้อง ห้องที่ผมเข้าพักเป็นเตียงเดี่ยวขนาดควีนไซส์ หน้าต่างห้องหันไปทางด้านหน้าของผับ มีม่านบังแดดสองชั้น
ห้องน้ำสะอาดเรียบร้อยด้วยการตกแต่งเรียบง่าย และมีขนาดใหญ่ พร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว ส่วนยาสระผม ครีมนวด โฟมอาบน้ำ สบู่มีมาพร้อม
ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ มีให้ครบครัน เครื่องเป่าผม โต๊ะรีดเสื้อ นอกจากนั้นมีบริการน้ำดื่มสองขวด กาต้มน้ำร้อน ชาและกาแฟ ถือว่าให้มาครบเช่นเดียวกับโรงแรมมาตรฐาน
แต่สิ่งที่ได้มากกว่าก็คือบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ใครที่ชอบนอนโรงแรมที่ให้ความสบาย มีการตกแต่งที่น่าอยู่ หรือมี atmosphere ที่ไม่เหมือนโรงแรมใหญ่ๆ นี่คือโรงแรมทางเลือกที่นอนสบายๆ ที่ผมชอบมากๆ ก็คือในห้องมีพัดลมมาหนึ่งตัวด้วย ซึ่งต้องเข้าใจว่าหน้าร้อนในอังกฤษบางครั้งก็ร้อนมาก แล้วเขาไม่มีแอร์เหมือนบ้านเรา พัดลมจึงช่วยได้ในเวลาที่อากาศร้อนๆ แบบนี้
หลายคนอาจจะกังวลว่าเป็นผับแล้วจะเสียงดังไหม ตอนกลางคืนจะมีเสียงเพลงรบกวน หรือเสียงพูดคุยดังไหม ต้องบอกก่อนว่าผับสไตล์อังกฤษไม่เหมือนผับในเมืองไทย ผับของเขาจะเหมือนร้านอาหารมากกว่า คนมาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น มานั่งดื่มกินข้าว ไม่มีดนตรีแสดงสด และร้านจะปิดตอนห้าทุ่ม ส่วนด้านนอกผับสี่ทุ่มเขาไม่อนุญาตให้ไปนั่ง เพราะจะรบกวนแขกที่พัก และคนอังกฤษส่วนใหญ่รักษา Privacy ได้ดีมากๆ ประเทศหนึ่ง ดังนั้นเรื่องเสียงดังรบกวนจึงน้อยมาก
04
of 05
อาหารเช้าน่าประทับใจ
อาหารเช้าที่ Jug & Bottle แอดอยู่ในราคาค่าห้องแล้ว แต่ถ้าเวบเอเยนต์ไม่ได้แอดมาด้วย ผมแนะนำว่าคุณควรแอดอาหารเช้าของที่นี่โดยไม่ต้องรีรอ
ที่นี่เสิร์ฟอาหารเช้า เจ็ดโมงครึ่งถึงเก้าโมงสำหรับวันจันทร์ถึงศุกร์ ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ แปดโมงเช้าถึงสิบโมง และควรตรงต่อเวลา เนื่องจากพนักงานมีน้อย แต่ถ้าเราเลตไปหน่อยเขาก็บริการได้ดีมากเช่นกัน
อาหารเช้าจานหลักของเขามีให้เลือกพอสมควร คือถ้าใครยังไม่เบื่อ Full English Breakfast ก็สั่งได้เลยนะครับที่นี่จัดเต็มและอร่อย ประกอบไปด้วย เบคอนรมควัน ไส้กรอกหมู เบรคบีน แบล็คพุดดิ้ง มะเขือเทศย่าง และไข่ สำหรับคนไม่ทานเนื้อ มีอาหารเช้ามังสะวิรัสแบบอังกฤษให้ด้วย ในจานจะประกอบไปด้วยไส้กรอกมังสะวิรัส เบรคบีน แบล็คพุดดิ้ง มะเขือเทศย่าง เห็ดและไข่
สำหรับคนที่นอนหลายคืน ถ้าเบื่ออิงลิชเบรกฟาสต์ เขามีเมนูจานไข่ให้เป็นทางเลือก เมนูนี้จะเป็นไข่ในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Scambled, Omelette, Eggs benedict กับแบล็กเบคอน ราดด้วย Hollandaise sauce, Eggs royale กับสโม๊กแซลมอน ราดด้วย Hollandaise sauce และ Eggs florentine
ผมลองเมนูไข่มาแล้วถือว่าอร่อยทุกเมนูนะครับ แล้วก่อนเสิร์ฟเขาจะมีขนมปังปิ้งมาให้ พร้อมกับกาแฟดับเบิล คือจะเผื่อมาให้คนละสองแก้วกันเลยทีเดียว ส่วนอาหารอื่นๆ ที่สามารถหยิบมาทานได้เลยก็มีพวกนม ผลไม้ น้ำผลไม้ และโยเกิร์ท
05
of 05
เดินทางเข้าเมืองลิเวอร์พูล และเดินทางกลับ อย่างไร
หลายคนอาจจะกำลังรออยู่ว่า ถ้าเรานอนนอกเมืองแบบนี้จะเดินทางเข้าไปดูบอลได้สะดวกหรือเปล่า อาจจะบอกได้ว่าค่อนข้างสะดวก และง่ายกว่าที่คิดมาก เอาจริงๆ แมตช์เดย์ที่แข่งเช้าที่สุดก็คือเที่ยงครึ่งตามเวลาอังกฤษ หรือเวลาแข่งแบบธรรมดาก็จะอยู่ราวๆ บ่ายบ่ายสามถึงบ่ายห้าโมงเย็น และบอลไปจบที่ประมาณหนึ่งทุ่ม นั่นทำให้สามารถกันเวลาเดินทางไปกลับได้โดยไม่ลำบากเลย
ยกเว้นว่าจะเป็นพวกมันเดย์ไนท์ หรือแมตซ์ค่ำคืนยุโรป ที่แข่งกันดึก แมตซ์แบบนี้ผมแนะนำให้นอนในเมืองดีที่สุด
การนั่งรถเมล์เข้าเมืองลิเวอร์พูลนั้นง่ายมาก ออกจากโรงแรมเดินไปที่ป้ายรถเมล์ Heswall bus station ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที ป้ายรถเมล์นี้เป็นป้ายต้นทางขนาดใหญ่มีหลายป้าย ให้ลองอ่านดูว่ารถจอดที่ป้ายไหน ถ้าจะให้สะดวกสามารถเปิดกูเกิลแมปเพื่อดูเวลาที่รถเมล์คันล่าสุดจะมาจะช่วยประหยัดเวลาเข้าไปอีก
สายที่เราจะขึ้นคือ 471 และ 472 สามารถไปได้ทั้งสองสาย ค่าโดยสารเที่ยวละ 2 ปอนด์ ผมแนะนำว่าซื้อตั๋ววันในราคา 5 ปอนด์ จะคุ้มค่ากว่าซื้อเที่ยวเดียว วิธีการซื้อคือบอกกับคนขับว่าต้องการตั๋ววัน เขาจะกดที่เครื่อง แล้วเราแตะบัตรจ่าย หรือใช้เงินสด จากนั้นเขาจะออกตั๋วมาให้ เก็บตั๋วอันนั้นไว้อย่าหาย เวลาขึ้นเที่ยวต่อไปก็แค่โชว์ตั๋วกับคนขับ
ผู้อ่านสามารถวางแผนการเดินทางด้วยรถเมล์ และสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างง่ายได้ที่เวบไซต์ Stagecoach bus ซึ่งจะให้ตารางการเดินรถอย่างละเอียดทำให้ไม่พลาดในการโดยสาร
รถเมล์ทั้งสองสายจะวิ่งผ่านตัวเมือง และรับผู้โดยสารจากชุมชน ซึ่งเราสามารถชมวิวของเมืองในอังกฤษตอนเหนือได้ ข้อดีของการนั่งรถเมล์คือวิ่งต่อเดียวไปลงในตัวเมืองลิเวอร์พูล รถใช้เวลาวิ่งประมาณชั่วโมงก็ถึงศูนย์กลางเมืองลิเวอร์พูล พอรถลอดอุโมงข้ามแม่น้ำเมอร์ซีก็เตรียมตัวลงรถเมล์ได้เลย
การเดินทางจากลิเวอร์พูลวันก็ไม่ยาก ให้ขึ้นรถเมล์ที่สถานี Liverpool Queen Square ขึ้นสาย 17 – 17A หรือยังมีสายอื่นๆ อีก ลองเสิร์ชในกูเกิลนะครับจะบอกวิธีการเดินไปขึ้นรถเมล์ซึ่งสะดวกมากๆ
ขากลับจากแอนฟิลด์มาที่ลิเวอร์พูลเซ็นเตอร์ ถนนบางสายในแอลฟิลด์จะถูกปิดชั่วคราว ดังนั้นต้องเดินมาขึ้นรถเมล์ตามที่คนส่วนใหญ่เดินกัน หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ของสนามกับตำรวจก็ได้ครับ หรือถ้าใครยังมีแรงก็เดินกลับตัวเมืองก็ได้ ไกลประมาณ ห้าหกกิโลเมตรเอง ผมเดินมาแล้วขาลากใช้ได้เลย 5555
ส่วนขากลับโรงแรม เมื่อมาถึงลิเวอร์พูลเซ็นเตอร์ ถ้าร้านอาหารยังไม่ปิดควรกินจากที่นี่เลย หรือซื้อพวกบะหมี่สำเร็จรูปแบบถ้วย หรือแฮม จากร้านสะดวกซื้อในตัวเมืองไปเลย ร้านสะดวกซื้อที่ลิเวอร์พูลจะปิดกันเร็วมากในวันเสาร์และอาทิตย์ จะมีบางร้านที่ปิดตอนห้าทุ่ม ขากลับยังคงนั่งรถเมล์สายเดิมนั่นก็คือ สาย 471 หรือ 472 ขึ้นที่สถานี Whitechaple (Stop SD) ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที จาก Liverpool Lime St รถเมล์เที่ยวดึกอาจดีเลย์รอนาน แต่รับรองว่ามาแน่นอน (เพราะรอมาแล้ว 555)
The Review
The Jug & Bottle
การนอนนอกเมืองลิเวอร์พูลนั้นไม่ได้ลำบากอะไรเลย โดยเฉพาะถ้าได้นอนโรงแรม Jug & Bottle ที่มีราคาสมเหตุสมผล มีประวัติยาวนาน สะอาด สวยงาม และไม่ควรพลาดเดินเดี่ยวที่ Heswall โดยเฉพาะหลังโรงแรมมีสวนเล็กๆ ของเทศบาลตั้งอยู่ และในเมืองมีร้านต่างๆ ที่น่าเดิน น่าช็อปหลายร้าน รวมถึงร้านอาหารหลายแบบบริการ
PROS
- ห้องพักสะอาด เครื่องอำนวยความสะดวกครบ
- ตกแต่งสวยงาม
- บ้านพักประวัติศาสตร์มีเรื่องราว
- มีบริการอาหารเช้าที่อร่อย
CONS
- ห่างจากเมืองลิเวอร์พูล