ในนามนักเขียนรุ่นใหม่ สันติสุข กาญจนประกร ที่ทำงานอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องสั้น และนวนิยาย รวมเรื่องสั้นเล่มใหม่ของเขา ฝนโปรยปรายใต้มงกุฎ เป็นปรากฏการณ์ทางวรรณกรรมไทยเล่มหนึ่งที่ทำให้เห็นโครงสร้างทางสังคมไทย ผ่านผู้คน และตัวละครที่ผุพังจากช่วงยุคการเมืองสับสนวุ่นวาย เสื้อเหลือง เสื้อแดง และรัฐที่อยู่ภายใต้คณะรัฐประหารอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ปรัมปราฉาก
ยังมีวัดแห่งหนึ่งที่คุณอาจไม่รู้จัก ถูกก่อตั้งนานเนิ่นโดยแม่ชีลึกลับผู้วายชนม์ ทะมึนอารมณ์หมองไหม้ไล้ทุกซอกมุม ต้นไทรบุราณมากมายยืนย้อยรากสีโคลนอย่างหญิงหยาดน้ำตา ม้าหินเก่าด้านหน้าระแหงแตกเคลือบจับด้วยฝุ่นกาลเวลาไร้ดูแล เลยลึกในหม่นมืดปรากฏบ้านหลายหลังตั้งเรียง เงียบจนคุณได้ยินเสียงใบไม้ปลิดกิ่ง
คือศาสนสถานสำหรับหญิงผู้ถูกผลักไสด้วยศีลธรรม จารีตอันงดงามขับไล่พวกหล่อนด้วยรอยยิ้ม เป็นแหล่งพักพิงสุดท้ายของเหล่านารีจิตสำนึกพร่อง คุณอาจเคลือบแคลงว่าข้าพเจ้าโกหก มันมีจริงหรือวัดดังกล่าว อยากวิงวอนให้คว้านลงยังจิตใจตนสู่แผนที่ประเทศ คุณจะพบร่องรอยทิศวัดแห่งนี้ตั้งอยู่
ลือเล่าเช่นมุขปาฐะว่าแม่ชีลูกเศรษฐีช้ำรักหนักหนา ระเห็จตนนุ่งห่มขาวพาใจร้าวบุกบั่นมาสร้างวัดปราศจากการรับรองโดยเถรวาทสมาคม หญิงเสื่อมศีลมากหน้าทยอยเข้าอยู่ แม่ชีมิได้บังคับใครต้องคลุมขาว เราจึงได้เห็นอิตถีเพศทุกช่วงวัยนั่งกดคางจ้องฝ่ามือ ราวปรารถนาสะบั้นเส้นชีวิตบนนั้นให้กระจุย
หญิงข้าราชการ หญิงนักธุรกิจ หญิงนักการเมือง หญิงแม่ค้า หญิงนักดนตรี หญิงนักเขียน หญิงนักชงกาแฟ หญิงไร้บ้าน หญิงผู้พิพากษา หญิงโสเภณี หญิงนักกิจกรรมทางสังคม หญิงอีกหลากอาชีพต่างหลงทางอยู่ข้างในตน เงาแห่งความหลังเดินย้ายตำแหน่งไปมา มันเหยียบย่ำรานรอยมิให้สมาน
น้ำตาหลั่งจนเหือด
รักร้อนในฉากแรก
พรายประกายแห่งสัมพันธภาพเริงร้อนระหว่าง สุทธิดา และ ชาตรี พราวพร่างร่างเรื่องราวแรกเริ่มเฉกคู่หนุ่มสาวทั่วไป ทั้งสองเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐออกนอกระบบ ฝ่ายหญิงกำเนิดในครอบครัวชนชั้นกลางที่วันร้ายคืนร้ายอุบัติเหตุทางเศรษฐกิจโถมถั่ง จนบิดามารดาเซซานหมดความสามารถด้านหาเงิน ในประเทศการศึกษามิใช่ของฟรี สุทธิดาจำต้องกู้กองทุนรัฐ
สืบสาววงศ์ตระกูลของชาตรีนั้นเป็นผู้ดีแปดสาแหรก ร่ำรวยกว่า มั่นคงทางเศรษฐศาสตร์มหภาคกว่า สอดคล้องไปกับความมั่นคงทางจิตใจ เขารักสุทธิดาบนนิยามของบุรุษเพศยุคเก่า เท่าๆ กับท่านขุนมูลนายรักเมียเอก แต่นี่คือยุคใหม่ ชาตรีไม่คิดมีเมียสอง เมียสาม หรือเมียไหนๆ กระนั้นมิขัดข้องหากใครจะประพฤติตนเช่นนั้น เขาไม่เคยผิดสัญญาสลักไว้ในดวงจิตไร้มลทินของสุทธิดา
ปีสองร่วมคณะ สุทธิดาชาตรีลุ่มหลงกันและกันดั่งโดนเทวดาแกล้ง ว่ายแหวกในสระกามารมณ์เสพสมเพศรส ชดเชยความขาดของชายหญิง เอกฉันท์ร่วมเขียนบนเส้นบรรทัดวรรณกรรมโรแมนติก อุ่นเนื้อด้วยเนื้อ อาบรักด้วยรัก วัดจากระดับอุดมศึกษา นับว่าทั้งสองช่ำชองการเป็นนักประพันธ์
สุทธิดาย้ายออกจากหอพักหญิงสอดตัวใต้ผ้าห่มเคียงหมอนบนเตียงคอนโดมิเนียมของชาตรี มิแพร่งพรายให้บิดามารดาทราบ อยู่กินเยี่ยงสามีภรรยา ในโหยไห้ บูลส์ ของ โรเบิร์ต จอห์นสัน ผู้แลกวิญญาณกับปีศาจตรงทางแพร่งเพื่อบรรลุความสำเร็จ ชาตรีคลั่งไคล้มือกีตาร์ละทิ้งอาชีพชาวไร่สู่นักดนตรีพเนจร จนเมียถูกเบื้องบนลงโทษด้วยความตายตามตำนาน
ทุกครั้งร่วมรัก เขาเปิดเพลงของจอห์นสัน ประวัติศาสตร์ชะตากรรมทาสทำชาตรีเจ็บปวด ระบายแบ่งมันลงร่างสุทธิดา หลับตานึกภาพไร่ฝ้ายตามมลรัฐทางตอนใต้ของอเมริกา คนผิวขาวย่ำยีศักดิ์ศรีคนดำ สร้างเกลียดชังถั่งโถม สุทธิดากำซาบทุกอณูอารมณ์ของเขา รัดกอดชาตรีราวคนกำลังจมทรายดูด หลังเสร็จกิจ ฝ่ายชายจะพึมข้างหูคำสัญญานานา
โลกบีบตัวหดแคบเหลือเพียงสองเราเมื่อมีความรัก สุทธิดาค่อยๆ เรียนรู้ว่าชาตรีเป็นคนจริงจัง หน้าชามบะหมี่เกี้ยว เขาคุยถึงเรื่องทหารญี่ปุ่นชำเราหญิงชาวจีนหกสัปดาห์ในสงครามนานกิง จิ้มเส้นใหญ่ผัดซีอิ้วพลางพูดแค้นเคียดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว หิ้วถุงร้านสะดวกซื้อกลับที่พักเล่าเนื่องเกี่ยวชนชั้นนำไทยยังมองคนด้วยสายตาแบบเดียวกับมองสัตว์
ศรัทธาในชาตรีเพิ่มพูนตามตะวันขึ้น ความระแวงแบบหญิงสาวลดต่ำตามตะวันตก สุทธิดามั่นใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้รักเธอจริง ในขมัวขมุกของหัวค่ำหนึ่ง ลงมาซื้อผ้าอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันการตั้งครรภ์คนเดียว สุทธิดาเห็นคู่รักนักศึกษาทุ่มเถียงกราดเกรี้ยว ฝ่ายชายตบหน้าหญิงสาวฉาดสนั่น สะท้านไปกับทรามเสียง
เธอไม่อาจเดาได้ทั้งคู่ทะเลาะกันด้วยเรื่องใด ในอึงอลของนึก สุทธิดาพบพานภาพวัยเด็ก ลุกลี้ลุกลนหาที่ซ่อน หลังทำแจกันแก้วตกแตกเปรื่องปร่าง พ่อเป็นคนดุ ส่วนแม่เหมือนฝาแฝดงอกออกมาจากวิญญาณห่ามดิบของพ่อ มืดมิดตู้เสื้อผ้า สุทธิดาน้อยตัวสั่นงันงก ก้านมะยมเคยฟาดวาบว่อน เจ็บแปลบปลีน่อง
สะบัดไล่อดีต สุทธิดาวัยสาวยิ้มกรุ้มกริ่ม เดินขึ้นคอนโดมิเนียมหัวโล่ง
พลั้งพลาดในเผอเรอ
เมื่อชาตรีรู้ว่าสุทธิดากำลังมีเด็กอยู่ในครรภ์ เขาตระหนกตื่น ความวิตกฉุกเฉินกระชากเคล้าคละหน้าพ่อกะแม่หมุนติ้วเลื้อยรอยหยักสมองแทบยืนไม่อยู่ พิพากษาคู่นอนไฉนปล่อยปละให้เกิดเรื่องมิบังควร สังหรณ์ตกต่ำในชีวิตขวิดภาพอนาคตเยินยับ เยี่ยงกระทิงฉุนจัดถูกมนุษย์ทิ่มแทงแหลมคม เผลอหลุดปากด่าทอสุทธิดาหยาบๆ คายๆ
ครั้นระลึกได้เป็นตนนั่นละ กระเส่าเสียงขอถอดเครื่องป้องกันปลดปล่อยเชื้อชีวิต แค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้นเอง ชาตรีสลดในมุทะลุ หล่นกายลงเคียงข้างสุทธิดา ปาดน้ำตาอาบแก้มคนรัก เอ่ยปลอบและขอโทษ ขอดโขดหินสติปัญญา ใคร่ครวญหาหนทางเช่นสุภาพบุรุษพึงกระทำ มึนเมาพอๆ กับซดเหล้าเพียวเป็นขวด
สุทธิดาเงียบเป่าสาก เปล่าเลย เธอมิได้โง่ เพียงรอความรับผิดชอบจากชาตรี ครุ่นนึกหน่วงหนักพอๆ กัน หากมีบุตรในวัยเรียน เธอจะสามารถเลี้ยงเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้ไหม ได้สิ ทำไมจะไม่ล่ะ ลูกคือของขวัญจากสรวงสวรรค์ เรื่องทำแท้งลืมไปได้เลย สุทธิดาไม่สามารถทำเช่นนั้น จนกว่าจะหมดทางเลือกจริงๆ แต่ตอนนี้ยัง
ลุกหยิบโทรศัพท์มือถือ ชาตรีจิ้มเบอร์โทรพ่อ กดทิ้ง เปลี่ยนเป็นเบอร์แม่มือสั่น เขากรอกเจตจำนง อือๆ อาๆ รับฟังเสียงจากปลายสาย รอยยิ้มระเหิดขึ้นจากก้อนแข็งๆ จุกกลางอก หันมาขอเบอร์โทรพ่อหรือแม่ก็ได้ของสุทธิดา อึมครึมอารมณ์จางหายคล้ายเมฆครึ้มถูกแดดขับไล่ วางโทรศัพท์ กดเข้าแอพพลิเคชั่นเพลง
โรเบิร์ต จอห์นสัน บรรเลงกีตาร์ เขาแสดงความรักต่อสุทธิดาดุเดือดอย่างกำชัย
กีตาร์อคูสติกสไลด์ ในอินโทรเพลง ครอสส์ โรดส์ ของจอห์นสัน กรีดก้องกลางซึมกระทือแสงห้อง ชายผิวดำเล่าขานถึงทางแยกในชนบทสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี หัวเข่าสองข้างเขาทิ้งลงกับพื้น ขอความเมตตาคนเบื้องบน อิงอ้างกฎหมายพระอาทิตย์ตกดิน หรือเคอร์ฟิวช่วงแยกเชื้อชาติในประเทศสหรัฐอเมริกา
หลังเสร็จสมอารมณ์รัก สุทธิดาซุกหน้าฝังแผ่นอกชาตรี ซ่อนตัวหนีโลกใจร้าย ความอ่อนแอคลานขึ้นจากหลืบลึกตะปุ่มตะป่ำ ระบัดใบอ่อนเติบโตเป็นช่อเขียวหนามคมกรีดร่างริ้ว แคบของตู้เสื้อผ้ามืดปรากฏหลังม่านตา เด็กหญิงสั่นด้วยกลัว ชั่วช้าสามานย์บรยากาศราวีไม่บันยะบันยัง สุทธิดาถีบส่งมันกลับลงหลุม เท้าเปลือยเขี่ยกลบ
เย็นวาบในแกนกาย
ต่อให้หล่นนรกอเวจีขุมในพระไตรปิฎก สุทธิดาสาบานจะไม่มีวันลืมความเจ็บปวดในวันนั้น แวววาวอุปกรณ์ไร้อารมณ์กระซวกสอด ปลายก้านยาวราวหนึ่งฟุตคล้ายที่ขูดมะพร้าว เคลื่อนลึกเข้าไปยังมดลูก ขูดสิ่งมีชีวิตทารกอย่างเถื่อน โชคร้ายเหลือเกิน เนื้อบอบบางหลุดออกมาไม่หมด เลือดเธอไหลนับเดือน
ทุรนจากระบบแข็งตัวของโลหิตผิดปกติ แสบแค้นทรวงสุดคณานับ อัดยาฆ่าเชื้อและวัคซีนบาดทะยัก อีกครั้งที่สุทธิดาเข้าซ่อนตัวตู้เสื้อผ้า ทอดทิ้งโลกระยำตำบอน แต่มันไม่มีตู้ดังกล่าวจริงหรอก เธอสร้างสรรค์แหล่งหลบขึ้นเอง กอบปรักหักพังแบบเด็กกอบปราสาททรายผู้ใหญ่ใจร้ายเตะพินาศ ขดตัวราวทารกในครรภ์มารดา
สุทธิดาเอื้อมมือลูบหัวเด็กน้อยไร้เดียงสา ผะแผ่วด้วยความเป็นแม่อ่อนโยน รอยยิ้มแต้มแก้มลูกรู้สึกรู้สา เป็นชั่วขณะของสุขสันต์ อุ่นเอื้อเอิบอาบทั่วสรรพางค์ เลือนลืมทุกสิ่งเกษมศานต์ สำราญในห้วงนึกประสานแผล ก่อนความจริงจะจิกหัวเธอให้ตื่น ปากอ้าน้ำลายไหลย้อย กลิ้งกลอกตา ศีรษะเคลงโคลง เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สุขสันต์ชั่วครู่ยามสัมผัสลูกน้อยในเพ้อเจ้อ ก่อนโลกโหดกระชากอย่างเหี้ยมเกรียม สุทธิดาเห็นแมลงเต่าทองตัวกระจิดพลัดหล่นตามพื้น ค่อยๆ ใช้ใบไม้ช้อนมัน สอดส่ายสายตาหาแม่แมลง เธอไม่พบ สัตว์เล็กบนใบร่วงหล่นลงอนาถยถากรรม ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผึ้งจิ๋วจมจานเจิ่งเมือกเหนียวๆ กระสนกระเสือกเกลือกกลั้วกึ่งเป็นกึ่งดับ สุทธิดาใช้นิ้วคีบเบาอย่างกลัวมันตาย เงยหน้าสำรวจหารัง เธอจินตนาการไปเองว่าในนั้นต้องมีแม่ผึ้งรออยู่ สัตว์ในมือบินหนี สุทธิดาผวาเย็นวาบในแกนกาย ยังมีผึ้งจมจานเจิ่งอีกมาก เธอเริ่มต้นใหม่อีกรอบ บางรอบของเจตนาช่วยเหลือ ผึ้งต่อยหัวแม่โป้ง ฝังเหล็กใน
เจ็บหนัก สุทธิดาออกเดินเท้าเลียบรางรถไฟยาวเหยียด สองข้างป่าทึบขนาบ เธอยังไม่หลาบ เอียงคอหาลูกสัตว์เถื่อน ไม่มี ไม่มีเลยสักตัว ลิบๆ นั่น ชายหนึ่งคนยืนหันหลังรอ สุทธิดาลืมตัว กระวีกระวาดวิ่งทิ้งรอยเลือดเป็นทาง ก้องพนาเพลงโรเบิร์ต จอห์นสันพลุ่ง ระยะประชิด ชายคนนั้นหันกลับมา ยิ้มกว้างกวาดหน้า
ผวาสวมกอดแน่น สุทธิดาซบแอบอิง จบสิ้นแล้ว ฝันร้ายของหญิงสาวจบสิ้นแล้ว กระซิบจางข้างใบหู
“เธอมันร่านสุทธิดา”
ลนลานผละอ้อมอก ชายปากเสียแยกร่างออกนับล้านลอกเลียนชายทั้งหล้า สุทธิดาเข่าอ่อนร่างร่วงลงพื้น สรรพางค์หดเล็กกลายกรวดร้าว หินกระจอกไร้ค่า ลำพังในทุรกันดารถิ่น กรวดร่านกู่ตะโกน แต่ก้อนหินมันจะมีเสียงได้อย่างไรเล่า ต่อให้แหกปากสักแค่ไหน สังคมเส็งเคร็งหูไปนาตาไปไร่ ย่อมไม่มีวันสำเหนียกสำนึก
ในบ้านอีกหลังไกลแสนไกล ชาตรีถูกขังอยู่ในกรงความรักของบุพการี
ลงทัณฑ์ปรัมปราฉาก
ยังมีวัดแห่งหนึ่งที่คุณอาจไม่รู้จัก เป็นที่พำนักของเหล่าหญิงเสื่อมศีล หล่อนคือคนล่าสุดระเหเร่ร่อนมาจากไหนข้าพเจ้าไม่อาจทราบได้ อาจเป็นลูกสาวของสังคมฉ่ำเทศนา ช่ำชองการขับไสด้วยข้อหาต่างๆ นานา หล่อนถามหญิงนางอื่นว่าหนีมาด้วยเหตุใด เปิดอกรับฟังกันและกัน หญิงข้าราชการอายุเยอะแล้วมีลูกอาจพิการ
หญิงนักดนตรีกับหญิงนักเขียนถูกข่มขืนยับโดยพ่อเลี้ยงใจยักษ์ หญิงแม่ค้าวัยรุ่นชนชั้นล่างผัวทิ้ง หญิงนักธุรกิจกับหญิงผู้พิพากษาเป็นเมียน้อยขายขี้หน้า หญิงนักการเมืองรัฐมนตรีชั่วหลอก หญิงไร้บ้านกับหญิงโสเภณีในประเทศงกสวัสดิการ หญิงนักกิจกรรมทางสังคมกับหญิงนักชงกาแฟฝ่ายก้าวหน้าจอมปลอมขืนใจกาย
คุณอาจกำลังเบ้หน้า โทษด่าข้าพเจ้ากุเรื่องขึ้นเอง เปล่าเลย ข้าพเจ้าเป็นชายก็จริง แต่ขออนุญาตผู้ดูแลศาสนสถาน รุกเข้าเพื่อบันทึกข้อมูลไว้เขียนสารคดี
คุณอาจกำลังเบ้หน้า คิดว่าข้าพเจ้าเข้าข้างหญิงร่าน เปล่าเลย ข้าพเจ้าคือชายผู้เหนอะเหนียวอยู่ในปิตาธิปไตยเต็มตัว ลูกสาว แม่ เพื่อนสนิทมิตรสหายใครจะเผชิญชะตากรรมเยี่ยงไร ทำไมข้าพเจ้าต้องสนด้วยเล่า หากจะมีสิ่งใดดึงดูดข้าพเจ้าได้บ้าง คงเป็นเสียงกระซิบของเหล่าหญิงร่านที่เปิดอกต่อกัน