Sunday, December 7, 2025
  • Login
  • Register
spikewrite.com
  • Article
  • Review
  • Podcast
  • Fiction
  • Our Authors
No Result
View All Result
spikewrite.com
  • Article
  • Review
  • Podcast
  • Fiction
  • Our Authors
  • Login
  • Register
No Result
View All Result
spikewrite.com
No Result
View All Result

เมื่อความเร็วออกไล่ล่า

เรื่องสั้นโดย ปันนารีย์

ปันนารีย์byปันนารีย์
in Short Story
Reading Time: 4 mins read
12
Home Short Story
12
SHARES
62
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

ความเปลี่ยนแปลงแม้จะเป็นอนิจจัง แต่ความเปลี่ยนแปลงได้ทำให้ทั้งความหวังและความฝันจบลง “เมื่อความเร็วออกไล่ล่า” เรื่องสั้นของ ปันนารีย์ ได้ฉายภาพความเปลี่ยนแปลงและเวลาที่ล่วงเลย

หลายสิบปีวิ่งผ่าน เหมือนแค่หลับตาแล้วตื่นมาอีกครั้งในอุโมงค์ใต้ดิน จากนี้เราคงเป็นปลวกอาศัยอยู่ใต้ดิน นอนใต้ดิน เดินทางใต้ดิน กินอาหารในภัตตาคารใต้ดิน มีคนหิวข้าวจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ เพื่อจะชะเง้อมองทัศนียภาพอันมืดมิด แล้วค่อยหลับตาจินตนาการถึงน้ำตก   ภูเขา ทะเลหรือดาวสักดวง ฉันไม่รู้ว่าอาหารที่อยู่ในภัตตาคารใต้ดินเหล่านั้นคืออะไร ซับเวย์- ร้านโปรดปรานของริวหน้าตาคล้ายแซนด์วิซแต่ทำไมถึงไม่เรียกแซนด์วิซ นั่นราแม็งรสกลมกล่อม ช่างหน้าตาเหมือนบะหมี่บนเรือหางยาวล่องแม่น้ำเจ้าพระยา วิวัฒนาการด้านอาหารที่เปลี่ยนแปลงช้าที่สุดก็ยังขึ้นขบวนรถไฟฟ้าความเร็วสูง     

อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลง บนถนนแห่งความเปลี่ยนแปลงไม่เว้นแม้แต่ตึกแถวแถบนี้ ผู้คนหายไปไหนกันหมด ป้ายเหล่านั้นทิ้งตัวหนังสือซีดไปแล้ว ร้านเช่าหนังสือการ์ตูนร้าง ไม่มีคนเช่ารายต่อไปมาเซ้งทำกิจการใหม่ สีภายนอกร่อนตัวเปลือยให้เห็นอิฐด้านใน ที่นี่เคยเฟื่องฟู สมัยที่เรายังนุ่งขาสั้นผูกคอซองกระโดดเรียน หากตอนนี้โรคระบาดทำเราทุกคนถูกพับเก็บไว้ในบ้าน ถนนหมองซีด ต้นไม้ระโหยโรยแรงปลิวโปรยบนท้องถนนแทนที่รถราขวักไขว่ แมวเจ้าถิ่นขดตัวอย่างเกียจคร้าน แมวเก้าชีวิตอาจมีอายุยืนยาวกว่าร้านหนังสือตรงหัวมุมถนน เราต่างเคยรีบเร่งราวกับว่าเพื่อนคนใดคนหนึ่งกำลังยืนรอเราอยู่ตรงนั้นก็ผ่อนฝีเท้าลง ดอกเหลืองของคูนหน้าแล้งไหวไปกับสายลมวันวาน หวนคำนึงถึงหนังสือที่พี่ซื้อให้เมื่อสามสิบปีที่แล้ว มันเคยวางขายบนแผงหนังสือแถวนี้  แต่บัดนี้และบัดนั้น ไม่มีร้านหนังสือ วันคืนที่เราหนีเรียนไปยืนจมจ่อแผงหนังสือนับชั่วโมง เพื่อมุงดูนิตยสารออกใหม่รายวัน ใครจะเป็นนายแบบนางแบบขึ้นปกของฉบับวันนี้    

ทว่านาฬิกาหมุนเร็วรี่ มีฝุ่นหนาเต๊อะจับหนังสือที่รอชั่งกิโลขาย อาแปะคนขายหนังสือพิมพ์คนนั้นก็ตายไป เมื่อคราวโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า รุนแรงสุดขีด

 ฉันกลับมาที่นี่พบว่าตึกแถวตรงถนนสุรวงศ์นั้นก็ปิดเงียบ ชื่อบริษัทอันเป็นเจ้าของนิตยสารชื่อดัง   ขึงผ้าประกาศว่าย้ายจากที่นี่ ไปอยู่ที่อื่นแล้ว ป้ายนั้นขาดย้วยลงมาปิดกั้นซี่กรงประตูเหล็กซึ่งกางกั้นภายในภายนอกอย่างชัดเจน มองเข้าไปก็เห็นแต่หยากไย่เต้นระบำ มองเห็นแต่สายลมด้านนอกปลิวกระทบ ตึกแถวสองชั้นเคยเป็นที่ตั้งของบริษัททำนิตยสารชื่อดัง ก่อนจะทยอยปิดตัว   อ้า….นี่หรือบริษัทที่ฉันเคยเพียรส่งจดหมายไปถึง ฉันพยายามส่งบทกวีนับสิบชิ้นไป ก่อนจะถูกปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วน มีเพียงครั้งเดียวที่มันได้รับการตีพิมพ์ แล้วพลันนึกไปว่าตัวเองได้กลายเป็นกวีไปแล้ว นั่นเป็นเหตุการณ์เพียงครั้งแรกและครั้งเดียว           

 ฉันเจอแมวตัวหนึ่ง ตรงหน้าศาลพระเจ้าเสือ พอเลี้ยวไปทางศาลาแดงเพียงโค้งเดียว ก็ยังพบแมวอีกตัวนอนหมอบอยู่ในพงพุ่มไม้ มันเป็นแมวสามขาที่ขาที่สี่ลีบแรงห้อยโตงเตง ช่างเป็นถนนที่มีแมวอาศัยอยู่จำนวนมาก มากพอๆ กับจะบอกว่า แมวเก้าชีวิตเหล่านี้ได้เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของสถานที่และผู้คนแถบนี้ (ฉันคิดแบบนั้นจริงๆ)

 ร้านขายงานศิลปะ ที่ติดกับสะพานลอยวางภาพดอกทานตะวันของแวนโก๊ะชิดแนบกระจก พวกเขาขายกาแฟจากดอยช้าง นอกจากแมว ที่ไหนๆ ก็ยังเต็มไปด้วยร้านกาแฟ ถ้าเป็นตอนนั้นเราสองคนเอาแต่นั่งอยู่ในร้านกาแฟจมดิ่งลงไปในโลกหนังสือ หายวับไปกับสถานีรถไฟที่มุ่งไปฮอกวอตส์ ริวเกิดปีเดียวกันกับที่ เจ.เค โรวลิ่งออกหนังสือแฮรี่ พ็อตเตอร์ เล่มแรก ตอนนั้นเราหวังว่าริวจะชอบอ่านหนังสือเหมือนกันกับเราสองคน ฉันออกแรงผ่อนหนังสือของกลอเลียราคาหลายหมื่น แทนที่จะซื้อทรัพย์สมบัติ เช่น รถ หรือ บ้าน แล้วเราสองคนก็ตกงาน     

อะไรๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว บริษัทที่เราหวังฝากชีวิตไว้ปิดตัวกะทันหัน รถไฟฟ้ามหานครวิ่งผ่านมาอย่างรวดเร็ว เราเต็มใจตกขบวนรถนั้นเพื่อกลับบ้านเกิด เราพ่ายแพ้หรือชนะ มันเป็นคำตอบอันยากจะอธิบายให้พ่อกับแม่ผู้รอคอยเรากลับบ้านนั้นฟัง แต่พวกเขาทำเป็นหูทวนลม ไม่อยากรับฟังอะไรนอกจากปูเสื่อรอต้อนรับการกลับบ้านอย่างเต็มใจ ภูเขาท้องฟ้าเหมือนมือพ่อแม่โอบกอดเราไว้ ไม่เคยห่างหาย แนบสนิทอยู่ทุกช่วงเวลา ความมืดยาวนานราวแพรผ้าม่านสะบัดขึ้นอยู่เหนือท้องฟ้า อีกเพียงครู่หนึ่งก็เปิดม่านหันกลับมาโชนแสงใหม่อีกครั้ง

พ่อยกที่ดินใหญ่กว่าแมวดิ้นตายได้ให้เรา เพื่อทำเกษตรแบบผสมผสาน เราเต็มใจขึ้นขบวนรถไฟแสนเชื่องช้าจากการทำเกษตรกรรม เราลงสวนไม้ผลเต็มพื้นที่ เราเดินออกไปต่อสู้ชีวิตแบบหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน พร้อมกันกับเราขนหนังสือ สมบัติอันมีค่ามหาศาลของเรากลับบ้าน    

             พี่ทำชั้นหนังสือติดกับฝาผนังให้

            “ฉันจะเขียนหนังสือนะ”

            พี่มองฉันที่ฉีกยิ้มแป้นจนหน้าฉันบานเหมือนจานข้าวราดกะเพราไก่ไข่ดาว พี่ยกโต๊ะที่แม่ใช้ตากกล้วยมาให้ฉันเขียนหนังสือ  

            “พี่ขัดกระดาษทราย แต่ไม่ลงสีล่ะ เพราะว่า ยังงี้ก็สวยแล้ว”

เมื่อความเร็วออกไล่ล่า เรื่องสั้นโดย ปันนารีย์
เมื่อความเร็วออกไล่ล่า เรื่องสั้น โดย ปันนารีย์

            เราฝันถึงรีสอร์ทสวยๆ ที่ทำให้ชีวิตนักเขียนของฉันหรูหราขึ้นมา ลมวันเวลาตีโอบเราอย่างแนบชิด เพียงแค่ลืมตาก็พบว่าริวกลายเป็นหนุ่มน้อย พี่สอนทำไร่ ฉันสอนเขียนหนังสือ เราสองคนเข้าสู่กระบวนการยัดเยียดตัวเราให้ลูกได้อย่างแนบเนียน ร่ายมนตร์คาถาความรักเอาไว้ทุกซอกมุมของบ้าน เสียงงึมงำที่ดังระรัวขึ้นมาในหัว คล้ายดอกไม้อันเบิกบานและเริงรื่น แต่เพียงครู่ ฟ้าสว่างทางทิศตะวันออก หมู่นกจำนวนมากกระพือปีกออกหากิน เราตื่นจากฝัน ไม่มีป่ากว้างใหญ่ มีเพียงยุ้งฉางของชาวนาที่น่าลักเล็กขโมยน้อย ม้วนพับวันเวลาไว้ในผืนผ้าใบ ก่อนสะบัดมันออกผึ่งแดด  วันที่เรากางแขนขากว้างใหญ่กว่าเดิม ปีที่ริวไปเล่นดนตรี ฉันนึกสงสัยว่าสมุดบันทึกที่เพียรเขียนเล่าเรื่องของริวตั้งแต่ลูกเป็นตัวอ่อนในท้อง มันเขียนความรักของเราเอาไว้ มันเคยอยู่บนชั้นหนังสือ เล่มหนาเป็นตึก ไม่น่าหายแต่มันหายไปแล้ว ครั้งสุดท้ายกระดาษสีขาวแต้มไปด้วยคราบเหลืองเก่า ผ่านไปสิบปี ยี่สิบปี ริวเหมือนเส้นแบ่งอาณาเขตที่เราจูงมือกันก้าวไม่พ้นประตูบานนั้น ฉันอยากเก็บริวไว้ในผ้าอ้อมสาลูลายการ์ตูน แม้วันนี้ ริวมีกล้ามแขนเป็นมัดจากการเล่นเวท เข้าฟิตเนส เขาแข็งแกร่งในยุคสมัยที่นิยมการออกกำลังกาย เขาไม่ใช่เด็กน้อยผิวบางที่ฉันต้องกางร่มปกป้องอีกต่อไป ฉันบอกตัวเองว่า ถึงเวลาที่ริวต้องออกไปกวัดแกว่งดาบด้วยตัวเองแล้ว พ้นไปจากการโอบกอดของฉันเสียที 

            “เมื่อก่อนพ่อกับแม่ก็เรียนหนังสืออยู่ที่นั่น”

            “โห…เจ๋งอ่ะ”

ขบวนรถไฟฟ้าลอดอุโมงค์ใต้ดินพาฉันไปส่งริว แม้ภาพที่ฉันกับพี่เคลื่อนผ่านกาลเวลาค่อยๆ ซ้อนภาพของริวเวลานี้เขากำลังสวมเน็คไทป้ายชื่อมหาวิทยาลัย เน็คไทของเขากวัดแกว่งไปมา เหมือนโล้ชิงช้าที่พร้อมโลดแล่นและโจนทะยาน ดุจฝูงนกหลงทางกำลังบินฉวัดเฉวียนขึ้นไปสูงเหนือทุ่งกว้าง มีลูกนกเข้าแถวเรียงรายเพื่อจะบินไปทางโน้นและที่นั่นเราต่างเคยไปมาแล้ว       

สนับสนุนรายได้ของ Spike Write สนับสนุนรายได้ของ Spike Write สนับสนุนรายได้ของ Spike Write
ADVERTISEMENT

            ฉันเริ่มกังวลใจว่า เขาจะพบแต่สิ่งที่สมปรารถนาหรือไม่ ฉัน, ผู้มาก่อนกาลย่อมรู้ว่าเขากำลังออกไปเผชิญสิ่งใด เขาจะอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศปลอดโปร่งพอหรือไม่ จะรู้เท่าทันความทุกข์ยากไหม เขาจะเอาตัวรอดไหม มีทั้งชัยชนะและความแพ้พ่ายห้อยระโยงลงมาพาดผ่านเส้นสายชีวิต

สนับสนุนสปอนเซอร์ Spike Write สนับสนุนสปอนเซอร์ Spike Write สนับสนุนสปอนเซอร์ Spike Write
ADVERTISEMENT

            “เหลวไหล”

            พี่ตวาดเสียงเบาๆ 

            บ้านของเราว่างและโล่งทันทีที่ริวไม่อยู่ แต่ฉันยังเห็นริวนั่งเล่นเกมอยู่ริมหน้าต่างห้องนั่งเล่น เสื้อผ้าชุดนอนของเขายังถูกแขวนไว้ตรงริมระเบียง

            “อะไรซ่อนอยู่ข้างหลัง”  

            พี่ถามขึ้นเมื่อเห็นฉันพยายามซ่อนกระดาษปึกนั้น

            “ต้นฉบับที่ฉันเคยให้ริวหัดเขียน เรื่องสั้นที่ริวเคยเขียนตอน ป.6 ไง ตอนนั้นฉันกับพี่สอนให้เขาเขียนหนังสือ แต่พอสัก ม.1 เขาก็เลิกสนใจหนังสือ ตอน ม.4 เขาไปเล่นดนตรี ตอน ม.5 “

            “ตอน ม.5 เขาไปเล่นฟุตซอลและตอน ม.6 เขาก็ติดโควิดทั้งที่เรียนออนไลน์”

            ฉันหัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะที่เหมือนเสียงคลื่นสาดซัดชายฝั่ง ระลอกคลื่นเคลื่อนที่เข้ามาหาแล้วหันหลังกลับออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะทิ้งเราไว้เพียงลำพัง

            “ฉันตั้งใจจะทำหนังสือให้ริว เขาอาจกลับมาอ่านตอนไหนสักตอนหนึ่งของชีวิต  อาจเป็นอายุ 30 หรือ 40 หรือตอนที่เราสองคนไม่อยู่แล้ว”

            ฉันโชว์ฝีมือวาดภาพประกอบของตัวเองให้พี่ดู ริวเขียนแคนโต้ทิ้งไว้ราวสิบบท เป็นตอนที่เขายังสงสัยเรื่องทำไมใบไม้หล่นร่วงลงมามีหลากหลายสี ทำไมนกตัวนั้นจึงจ้องมองเราผ่านกระจก เราสงสัยหรือว่าเป็นนกที่สงสัย

ฉันบอกพี่ว่าฉันได้ทำสมุดบันทึกของตัวเองที่เขียนเล่าเรื่องของริวไว้ หายไปแล้ว แต่สมุดบันทึกที่ริวเขียนไว้ตั้งแต่ 10 ขวบยังอยู่ ฉันเฝ้าอ่านมัน ณ เวลานั้น ริวแค่เด็กชายคนที่ช่างสังเกตและขี้สงสัย ไม่ใช่ริวผู้กำลังจะกลาย เป็นวิศวกรสร้างหุ่นยนต์ ไม่ใช่ ริวที่หัดเขียนภาษาไพทอนระดับสูง ไม่ใช่ริวผู้สตรีมมิ่งอยู่ทุกคืนและหายไปในโลกเมตาเวิร์สสักแห่ง ที่ที่ไม่มีฉัน ไม่มีพี่ ไม่มีเราอยู่ในนั้น      

            “ฉันกำลังรู้สึกว่า ริวอาจอยากอ่านหนังสือของตัวเอง”

            “เหลวไหลจริงๆ ตัวเธอหรือริว นี่ไม่ใช่เวลาที่ใครเปิดหน้าหนังสือกันอีกแล้ว”

ฉันมองทิวทัศน์สองข้างทางที่รถไฟเชื่องช้าขบวนหนึ่งกำลังหันหัวกลับบ้าน เราต้องเดินทางต่อด้วยขบวนรถไฟของตัวเอง เราแค่อยากมีโอกาสถนอมเก็บรักษาช่วงเวลาที่วิ่งผ่านไว้ที่ไหนสักแห่ง   บนชั้นวางหนังสือ ในห้องนอนที่ขึงผ้าม่านสีความรัก อบร่ำด้วยกลิ่นวันวาน 

 รถไฟขบวนหนึ่งเริ่มหมุนวงล้อส่งเสียงเคลื่อนที่ กระฉึกกระฉัก เป็นความเชื่องช้าที่ต้นไม้หลายต้นได้วิ่งผ่านหน้าต่างรถไฟไป ระหว่างเวลาที่มันเคลื่อนที่ มันได้เติบโตและแตกกิ่งก้านเสมอ  ฉันเอาแต่กอดสมุดเล่มนั้นไว้แนบอก กลิ่นกรุ่นภายในอบอวลอยู่เพียงลำพัง        

ยากจะอธิบายเป็นตัวหนังสือใดๆ ออกมาสู่ภายนอก

ปันนารีย์ FaceBook

Related

Share5Tweet3Share
ปันนารีย์

ปันนารีย์

ปันนารีย์ เขียนทั้งกลอนเปล่าและเรื่องสั้น โปรดการเขียนวรรณกรรมเยาวชน ปัจจุบัน เขียนงานที่เพจปันนารีย์ ผลงานล่าสุดขณะนี้ รวมเรื่องสั้น “ดั่ง..ฟองคลื่น” อยู่ในรูปแบบอีบุ๊คส์

RelatedPosts

เรื่องสั้น เคหาสน์มืด (The Dark House) โดย Sadeq Hedayat
Short Story

เรื่องสั้น เคหาสน์มืด (The Dark House) โดย Sadeq Hedayat

November 17, 2025
20
สุนัขจรจัด, The Stray Dog, Sadeq Hedayat,
Short Story

เรื่องสั้น สุนัขจรจัด (The Stray Dog) โดย Sadeq Hedayat – วรรณกรรมแปล

October 20, 2025
51
ปกเรื่องสั้น "เธอ" โดย Kireina Kura - เรื่องราวของนักเขียนที่เผชิญกับภาวะซึมเศร้า
Short Story

เรื่องสั้น เธอ – Kireina Kura

October 17, 2025
44
คุยกับ ทราย เจริญปุระ : เมื่อการ (หยุด) เล่าคือการเยียวยา
Interview

คุยกับ ทราย เจริญปุระ : เมื่อการ (หยุด) เล่าคือการเยียวยา

August 1, 2025
928
Next Post
ยามเช้า

ยามเช้า

17.00 – 18.00 นาฬิกาของทุกวัน

17.00 – 18.00 นาฬิกาของทุกวัน

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

ขาไก่หิมพานต์ แฮ่ แฮ่ ขาไก่หิมพานต์ แฮ่ แฮ่ ขาไก่หิมพานต์ แฮ่ แฮ่

Recent Posts

เรื่องสั้น เคหาสน์มืด (The Dark House) โดย Sadeq Hedayat

เรื่องสั้น เคหาสน์มืด (The Dark House) โดย Sadeq Hedayat

November 17, 2025
สุนัขจรจัด, The Stray Dog, Sadeq Hedayat,

เรื่องสั้น สุนัขจรจัด (The Stray Dog) โดย Sadeq Hedayat – วรรณกรรมแปล

October 20, 2025
ปกเรื่องสั้น "เธอ" โดย Kireina Kura - เรื่องราวของนักเขียนที่เผชิญกับภาวะซึมเศร้า

เรื่องสั้น เธอ – Kireina Kura

October 17, 2025
jidanan

สัมภาษณ์ จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท กับการเปลี่ยนแปลงของวงการหนังสือ

November 26, 2025
คุยกับ ทราย เจริญปุระ : เมื่อการ (หยุด) เล่าคือการเยียวยา

คุยกับ ทราย เจริญปุระ : เมื่อการ (หยุด) เล่าคือการเยียวยา

August 1, 2025

Popular posts this month

  • Gap.Bumseeker

    Let’s talk ! คุยกับ Gap.Bumseeker การเดินทางที่ไม่มีคำว่ากลัว

    7283 shares
    Share 2958 Tweet 1802
  • รีวิว กระทะเหล็กเผา ตาตีมือ รุ่นโปร

    123 shares
    Share 50 Tweet 30
  • 3 มันฮวา จาก Kakao Webtoon ที่ไม่ควรพลาด!

    40 shares
    Share 33 Tweet 3
  • Review Aiwa MI-X100 Retro

    38 shares
    Share 16 Tweet 9
  • แนะนำ โคนัน เดอะมูฟวี่ ภาคไหนสนุกจนลืมไม่ลง!

    82 shares
    Share 44 Tweet 16
Hamlet Hamlet Hamlet
ADVERTISEMENT

About Us

Spike Logo

Categories

  • Article
  • Download
  • Interview
  • Literature
  • Music
  • Novel
  • Podcast
  • Poem
  • Review
  • Short Story
  • Sound
  • Sport
  • Travel Trip
  • Uncategorized
  • writing

Tag

Before It Starts to Rain bungo stray dogs existentialism features post Film Inio Asano Internship literature liverpool manga Music Orca Rabuka Review Sadeq Hedayat short stories Short Story Short Story Season short story winter Sound steppenwolf travel trigger warnings weird fiction William Shakespeare การอ่าน คณะประพันธกรจรจัด ความเหงา ความโหดร้าย คำเตือน จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท ทราย เจริญปุระ นักเขียน นิวัต พุทธประสาท บทความ ฝึกงาน ฝึกงานสำนักพิมพ์ วรรณกรรม วรรณกรรมแปล วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา หิมะแดง เครื่องเสียง เม่นวรรณกรรม เรื่องสั้น โศกนาฏกรรม

Review

The Jug & Bottle โรงแรมในลิเวอร์พูล ที่อยู่นอกเมือง

The Jug & Bottle

การนอนนอกเมืองลิเวอร์พูลนั้นไม่ได้ลำบากอะไรเลย โดยเฉพาะถ้าได้นอนโรงแรม Jug & Bottle ที่มีราคาสมเหตุสมผล มีประวัติยาวนาน สะอาด สวยงาม และไม่ควรพลาดเดินเดี่ยวที่ Heswall
รีวิว Rega Planar 1 : เครื่องเล่นแผ่นเสียง งบประมาณต่ำที่ดีที่สุด…ในโลก…ตลอดกาล?

Rega Planar 1

Rega Planar 1 เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงราคาประหยัดที่พัฒนามาจากรุ่น RP1 ด้วยการออกแบบใหม่ ใช้งานง่าย ปรับปรุงโทนอาร์ม RB110 และคุณสมบัติเด่นมากมาย เสียงของมันแม่นยำและมีพลัง ฿14000

© 2025 Spike Write - Premium News & Magazine blog by Spike Write.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In

Add New Playlist

  • Login
  • Sign Up
  • Cart
No Result
View All Result
  • Article
  • Review
  • Podcast
  • Fiction
  • Our Authors

© 2025 Spike Write - Premium News & Magazine blog by Spike Write.

This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy.
Are you sure want to unlock this post?
Unlock left : 0
Are you sure want to cancel subscription?
-
00:00
00:00

Queue

Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00