Thursday, July 17, 2025
  • Login
  • Register
spikewrite.com
  • Article
  • Review
  • Podcast
  • Fiction
  • Our Authors
No Result
View All Result
spikewrite.com
  • Article
  • Review
  • Podcast
  • Fiction
  • Our Authors
  • Login
  • Register
No Result
View All Result
spikewrite.com
No Result
View All Result

เที่ยว Knaresborough : เสน่ห์แห่งกาลเวลา ริมฝั่งแม่น้ำนิดด์

นิวัต พุทธประสาทbyนิวัต พุทธประสาท
in Travel Trip
Reading Time: 6 mins read
3
Home Travel Trip
17
SHARES
17
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

แม้ลอนดอนจะเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ แต่หากมีใครให้เลือกเมืองเล็กๆ สักแห่งสำหรับการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ ผมขอแนะนำ เที่ยว Knaresborough (แนร์สโบรอ) เมืองในนอร์ธยอร์กเชียร์ที่เปรียบดั่งอัญมณีเม็ดงามซึ่งซุกซ่อนเรื่องราวอันน่าทึ่งไว้ในทุกอณูของสถาปัตยกรรมและทิวทัศน์ ที่นี่คือภาพประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวา ด้วยปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านเหนือหน้าผา แม่น้ำที่ไหลเอื่อยอย่างสง่างาม และสะพานรถไฟที่กลายเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่น

การมาเยือนแนร์สโบรอในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการชมเมืองที่สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ประวัติศาสตร์ของยุคกลาง เพื่อฟังเสียงกระซิบจากอดีตที่ดังก้องจนถึงปัจจุบัน

Knaresborough Viaduct
สะพานรถไฟ Knaresborough Viaduct ที่ทอดข้ามแม่น้ำนิดด์

การเดินทางสู่กาลเวลา

ผมเริ่มต้นการเดินทางจากลิเวอร์พูล มุ่งหน้าสู่เมืองยอร์กด้วยรถไฟ การเดินทางข้ามฝั่งตะวันออกผ่านแมนเชสเตอร์และลีดส์นั้นใช้เวลาไม่นานนัก เมื่อถึงยอร์ก ผมมุ่งหน้าไปเช็คอินที่โรงแรม ก่อนจะกลับมายังสถานีรถไฟอีกครั้งเพื่อต่อรถไฟขบวนสั้นๆ ไปยังแนร์สโบรอ ซึ่งใช้เวลาเพียง 40 นาที ทิวทัศน์ชนบทที่เพลินตาสองข้างทางทำให้การเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็ว

สัมผัสแรกเมื่อถึงสถานีรถไฟแนร์สโบรอ คือความเงียบสงบ ผมใช้ทางลอดเพื่อข้ามทางรถไฟไปอีกฝั่งหนึ่ง ก่อนเดินไปตามถนน The Parsonage ที่เต็มไปด้วยร่มไม้ ผ่านโบสถ์ St Johh The Baptist ไม่นานก็เดินถึงถนนใหญ่ A59  เพื่อความชัวร์ผมเปิดกูเกิลแมพไปยังจุดเริ่มต้นของการเดินทาง

ปฐมบทแห่งประวัติศาสตร์: จากป้อมปราการสู่เมืองตลาด

ประวัติศาสตร์ของ Knaresborough เริ่มต้นขึ้นราวศตวรรษที่ 11 หลังชาวนอร์มัน (ชาวไวกิ้งที่ตั้งรกรากในนอร์ม็องดี — ฝรั่งเศส) พิชิตอังกฤษ ชื่อของเมืองเชื่อว่ามาจากคำว่า “Cenar’s Burgh” ซึ่งหมายถึง “ป้อมปราการบนโขดหิน” ไม่นานนัก ปราสาทแนร์สโบรอ (Knaresborough Castle) ก็ได้ถูกสร้างขึ้นบนหน้าผาสูงชันเหนือคุ้งแม่น้ำนิดด์ (River Nidd) 

ทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์นี้ทำให้ปราสาทกลายเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์อังกฤษในภาคเหนือ เป็นทั้งที่ประทับของกษัตริย์จอห์น สถานที่คุมขังนักโทษ และเป็นสถานที่ 4 อัศวินบุกเข้าไปสังหาร Thomas Becket อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี ในปี ค.ศ. 1170 อย่างโหดเหี้ยม การมรณกรรมของเบคเก็ตสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วยุโรป เขาได้รับการยกย่องให้เป็นมรณสักขี (Martyr) ผู้ยอมสละชีพเพื่อปกป้องศาสนจักร  

น่าเศร้าที่ปราสาทอันเกรียงไกรแห่งนี้ต้องมาถึงจุดจบในช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษ เมื่อกองทัพของโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ได้เข้าทำลายในปี ค.ศ. 1648 เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของฝ่ายนิยมกษัตริย์อีกต่อไป 

ทุกวันนี้ สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือซากปรักหักพังอันทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง King’s Tower ที่ยังคงตั้งตระหง่านท้าทายกาลเวลา การเดินสำรวจซากปราสาทและพิพิธภัณฑ์ภายใน ทำให้ต้องจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต 

Knaresborough Station
สถานีรถไฟ Knaresborough
แม่น้ำนิดด์
knaresborough-viaduct-river-nidd
แม่น้ำนิดด์อีกมุมมอง
Knaresborough
บ้านริมแม่น้ำนิดด์
Knaresborough Castle
ซากปราสาท Knaresborough Castle ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน

“แจ็คตาบอดแห่งแนร์สโบรอ” (Blind Jack of Knaresborough)

หากพูดถึงถึงบุคคลในแนร์สโบรอ เรื่องราวของ “Blind Jack” หรือ John Metcalf ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจที่น่าทึ่งที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ จอห์น เมตคาล์ฟ เกิดที่เมืองแนร์สโบรอ (Knaresborough) ในปี ค.ศ. 1717 ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่ออายุเพียง 6 ขวบ หลังจากป่วยด้วยไข้ทรพิษ (smallpox) อาการป่วยพรากการมองเห็นของเขาไปอย่างถาวร แต่เขาไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา อีกทั้งครอบครัวสนับสนุนให้เขาใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่น เขาจึงเรียนรู้โลก และสำรวจรอบตัวด้วยวิธีที่แตกต่างออกไป เขาใช้ไม้เท้าคู่ใจคลำทาง ตรวจสอบพื้นผิว ฟังเสียงสะท้อนเพื่อกะระยะ 

John Metcalf หรือ Blind Jack
รูปปั้นหรืออนุสรณ์ของ John Metcalf หรือ Blind Jack วิศวกรตาบอดแห่งแนร์สโบรอ

นอกจากนั้นเขายัง เป็นทั้งนักไวโอลิน มัคคุเทศก์ พ่อค้าม้า และสมัครเป็นทหารฝ่ายอังกฤษต่อสู้กับกลุ่มกบฏจาโคไบต์ อาชีพหลากหลายทำให้เขามีความเข้าใจภูมิประเทศ สภาพดิน และเส้นทางต่างๆ อย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าคนตาดี ทำให้เขาเป็นวิศวกรตาบอดผู้สร้างถนนคนสำคัญของอังกฤษในศตวรรษที่ 18 

เนื่องจากอังกฤษกำลังเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม การคมนาคมขนส่งกลายเป็นสิ่งสำคัญ ความต้องการถนนคุณภาพดี (Turnpike roads) เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในปี ค.ศ. 1765 มีการเปิดประมูลสร้างถนนระยะทาง 3 ไมล์ (ประมาณ 5 กิโลเมตร) ระหว่างเมืองมินสกิป (Minskip) และแนร์สโบรอ เมตคาล์ฟได้เข้าประมูลงานนี้ โดยอาศัยความรู้ความเข้าใจในพื้นที่อย่างละเอียดที่เขาสั่งสมมาทั้งชีวิต จนชนะในการประมูลนี้

ตลอดชีวิตการทำงานกว่า 30 ปี จอห์น “แจ็คตาบอด” เมตคาล์ฟ ได้สร้างถนนทั่วภาคเหนือของอังกฤษเป็นระยะทางรวมกว่า 180 ไมล์ (ประมาณ 290 กิโลเมตร) ถนนของเขาขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและใช้งานได้ดีเยี่ยม เรื่องราวของเขาจึงไม่ใช่แค่เรื่องของ “คนตาบอดที่สร้างถนนได้” แต่เป็นเรื่องของ “วิศวกรผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง…ที่บังเอิญตาบอด” ผู้ซึ่งใช้อัจฉริยภาพและประสาทสัมผัสอื่นมาทดแทน จนสร้างสรรค์ผลงานที่เปลี่ยนแปลงหน้าตาของการคมนาคมในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมไปตลอดกาล 

สนับสนุนรายได้ของ Spike Write สนับสนุนรายได้ของ Spike Write สนับสนุนรายได้ของ Spike Write
ADVERTISEMENT

ทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ริมฝั่งแม่น้ำนิดด์

ตอนนั้นเลยเวลาเที่ยงมาหลายนาที ท้องของเราเริ่มโหยหาอาหารกลางวัน ตอนแรกเราเข้าไปในคาเฟ่ ของ Hanshaws Arts & Crafts Center ที่ดูเหมือนเป็นพื้นที่ปฏิบัติงานทางศิลปะ แต่ที่นั่นไม่มีอะไรกินมากนัก เราจึงเดินไปที่ริมแม่น้ำนิดด์ตามถนนใหญ่ เราพบกับ The Worlds End ผับสไตล์อังกฤษและคิดว่าจะฝากท้องเอาไว้ที่นั่นแม้ที่นั่งในร้านจะเต็ม แต่ด้านนอกและดาดฟ้ายังมีที่ว่าง เพราะก่อนหน้านั้นฝนเพิ่งหยุดตก คะเนดูแล้วมันคงไม่ตกลงมาอีก เราจึงตัดสินใจนั่งด้านนอก ซึ่งก็จริง ไม่นานนักแดดก็เริ่มออกมาจากเมฆ

เราสั่งอาหารผับ ไส้กรอกอังกฤษกับมันบด ฟิชแอนด์ชิบ และเบียร์กินเนสต์ เท่านี้ก็พออุ่นใจ ในขณะที่กินอย่างอิ่มหนำ โดยมีวิวแม่น้ำนิดด์ที่มีฉากอยู่เบื้องหน้า ส่วนตรงข้ามแม่น้ำฝั่งโน้นเป็นทางเข้า ถ้ำมาตาชิพตัน (Mother Shipton’s Cave) และ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ (Petrifying Well) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องคุณสมบัติของน้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ จนสามารถทำให้วัตถุต่างๆ ที่ถูกแขวนทิ้งไว้กลายเป็นหินได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน การได้เห็นตุ๊กตาหมีและของใช้ต่างๆ กลายเป็นหินแข็งๆ เป็นอะไรที่น่ามหัศจรรย์มากๆ แต่คำนวนเวลาแล้วเราคงไม่ไปที่นี่ เพราะอาจจะกลับไปที่ยอร์กเย็นเกินไป

หลังอิ่มอาหาร เดินออกมาถ่ายภาพแม่น้ำนิดด์ สิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับการมาเยือนแนร์สโบรอ คือเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว ซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวปราสาท แล้วมองลงมาที่เมือง ภาพที่งดงามจนแทบหยุดหายใจคือทัศนียภาพของ แม่น้ำนิดด์ ที่มีฉากหลังเป็น สะพานรถไฟแนร์สโบรอ (Knaresborough Viaduct) อันโอ่อ่า เราใช้ทางเดินริมน้ำ ผู้คนออกมาเดินเล่น พายเรือ เราเดินรอดสะพานรถไฟจากนั้นจะมีทางขึ้นไปยังจุดชมวิวสองทางคือทางถนนและบันได ทั้งสองทางใช้เวลาเดินหนึ่งเหนื่อย แต่ขอบอกว่าคุ้มค่า

Nidd River
แม่น้ำนิดด์ เมื่อมองขึ้นไปจะเห็นซากปราสาทบนหน้าผาชัน

สะพานหินทรายแห่งนี้คือสัญลักษณ์ของวิศวกรรมยุควิกตอเรีย ออกแบบโดยวิศวกรชื่อ โทมัส เกรนเจอร์ (Thomas Grainger) โดยมี บริษัท Leeds & Thirsk Railway เป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้าง เพื่อเชื่อมเมืองลีดส์ เธิร์สก์ และแนร์สโบรอ สะพานที่เห็นในปัจจุบันคือเวอร์ชันที่สร้างขึ้นใหม่ เปิดใช้งานในปี ค.ศ. 1851 หลังจากที่สะพานเดิมได้พังทลายลงระหว่างการก่อสร้าง

ตัวสะพานได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายป้อมปราการ (Castellated style) เพื่อให้กลมกลืนกับทิวทัศน์ของปราสาทแนร์สโบรอที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง จนได้กลายเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ทางรถไฟที่สวยงาม และได้กลายเป็นภาพจำของ Knaresborough ที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ดและภาพถ่ายนับไม่ถ้วน ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะถ่ายภาพมุมนี้ลงไปเห็นแม่น้ำนิดด์ สะพานรถไฟ และเมืองแนร์สโบรอ

ชีวิตชีวาแห่งเมืองเก่าและมรดกทางสถาปัตยกรรม

หลังจากเดินถ่ายภาพ Knaresborough Viaduct และปราสาทแนร์สโบรอ เราไม่ได้เข้าไปในพิพิธภัณฑ์เนื่องจากเวลาเปิดทำการเหลือเพียงชั่วโมงเดียว เราจึงได้แต่เพียงเดินดูภายนอก เท่านี้ก็ยังตราตรึงด้วยภาพตระการตาที่ยิ่งใหญ่ เราเดินออกจากโซนปราสาทก็เข้าสู่ใจกลางเมืองแนร์สโบรอ จากนั้นเดินสำรวจไปตามถนน จะพบว่าที่นี่นักท่องเที่ยวยังไม่มาก เมืองสงบท่ามกลางแสงแดดในเดือนแรกของฤดูร้อน 

ไม่กี่ก้าวเราก็ถึงจัตุรัสเมืองซึ่งเป็น Market Place ยังคงมีการจัดตลาดนัดทุกวันพุธเหมือนเช่นหลายร้อยปีก่อน วันที่เราไปเป็นวันตรงตลาดนัด แต่เนื่องจากเย็นมากแล้ว ร้านค้าค่อยๆ ทยอยเก็บของกันหมด เราจึงได้แต่สำรวจอาคารบ้านเรือนรอบๆ จัตุรัส ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนที่งดงาม 

สถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียน (Georgian Architecture) คือรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับความนิยมในอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 (ประมาณปี ค.ศ. 1714 – 1830) ซึ่งเป็นช่วงเวลารัชสมัยของกษัตริย์จอร์จที่ 1 ถึง จอร์จที่ 4

ยุคนี้อังกฤษมีความมั่งคั่งและมีเสถียรภาพทางการเมือง สังคมชั้นสูงกับชนชั้นกลางร่ำรวยขึ้นมา พวกเขาต้องการสร้างบ้านเรือนที่สะท้อนถึงรสนิยมอันดีและความรู้แจ้ง (Enlightenment) ทำให้สถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนถือกำเนิดขึ้น โดยได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากสถาปัตยกรรมคลาสสิกของกรีกและโรมัน เน้นความเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความสง่างาม

สำหรับในแนร์สโบรอ ซึ่งเป็นเมืองตลาดที่สำคัญและเป็นเมืองสปาที่กำลังได้รับความนิยมในยุคนั้น ความมั่งคั่งจากการค้าจนถึงการท่องเที่ยวได้นำไปสู่การสร้างและปรับปรุงอาคารหลายแห่งให้เป็นไปตามสมัยนิยมแบบจอร์เจียน โดยเฉพาะอาคารรอบๆ จัตุรัสตลาด ซึ่งเป็นหัวใจของเมือง

เที่ยวหนึ่งวันจากยอร์ก (Day trip from York)
อาคารสถาปัตยกรรมจอร์เจียน
ตลาดนัดกลางจัตุรัสกำลังจะปิด
ระหว่างทา่งกลับสถานีรถไฟ
ทางเดินในตัวเมือง

“หน้าต่างตาบอด” (Blind Windows): ผลพวงจากภาษีหน้าต่าง

หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจที่สามารถะพบเห็นได้บ่อยในอาคารจอร์เจียนที่แนร์สโบรอ คือ “หน้าต่างตาบอด” หรือหน้าต่างที่ถูกก่ออิฐปิดทึบเอาไว้

นี่ไม่ใช่การออกแบบเพื่อความสวยงามตั้งแต่แรก แต่เป็นผลมาจาก ภาษีหน้าต่าง (Window Tax) ที่บังคับใช้ในอังกฤษช่วงปี ค.ศ. 1696 ถึง 1851 ภาษีนี้เก็บตามจำนวนหน้าต่างของบ้าน ยิ่งมีหน้าต่างมากก็ยิ่งเสียภาษีแพง หลักการคือ “คนรวยย่อมมีบ้านหลังใหญ่ และบ้านหลังใหญ่ย่อมมีหน้าต่างจำนวนมาก”

ดังนั้น การเก็บภาษีตามจำนวนหน้าต่างจึงเปรียบเสมือน ภาษีทรัพย์สิน (Property Tax) แบบหนึ่ง ที่ตั้งใจจะพุ่งเป้าไปที่ชนชั้นสูงและชนชั้นกลางผู้มีอันจะกิน โดยคาดหวังว่าจะกระทบกระเทือนคนยากจนน้อยที่สุด เพราะคนจนมักจะอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ที่มีหน้าต่างไม่กี่บาน หรืออาจจะไม่มีเลย

เจ้าของบ้านหลายคนจึงเลือกที่จะก่ออิฐปิดหน้าต่างบางบานเพื่อเลี่ยงภาษี อย่างไรก็ตาม เพื่อคงความสมมาตรของอาคารตามหลักสถาปัตยกรรมจอร์เจียน พวกเขาจึงยังคงโครงสร้างกรอบหน้าต่างไว้ภายนอก กลายเป็นลักษณะเฉพาะที่น่าสนใจมาจนถึงทุกวันนี้

สนับสนุนสปอนเซอร์ Spike Write สนับสนุนสปอนเซอร์ Spike Write สนับสนุนสปอนเซอร์ Spike Write
ADVERTISEMENT

“ภาษีหน้าต่าง” ถือกำเนิดขึ้นและถูกนำมาใช้เป็นเวลานานถึง 155 ปี ก่อนจะถูกยกเลิกไปในปี ค.ศ. 1851 เนื่องจากผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนที่ต้องอยู่ในบ้านที่มืดและอับทึบจากการก่ออิฐปิดหน้าต่างเพื่อเลี่ยงภาษี

(Blind Window) ในเมือง Knaresborough
อาคารสถาปัตยกรรมจอร์เจียนที่มีหน้าต่างตาบอด (Blind Window) ในเมือง Knaresborough

ในปัจจุบัน เมืองแนร์สโบรอได้มีโครงการศิลปะ “Town Windows” ที่นำภาพวาดเหตุการณ์และบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของเมืองไปวาดลงบนแผ่นไม้แล้วนำไปติดตั้งในช่องหน้าต่างตาบอดเหล่านี้ ทำให้มันกลายเป็นแกลเลอรีศิลปะกลางแจ้งที่มีชีวิตชีวาไปอีกแบบ

ร่ำลาด้วยรสชาติแห่งยอร์ก

มาถึงบทสุดท้ายอีกครั้ง การอำลาย่อมเกิดขึ้นเสมอ แม้เราจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการสำรวจเมืองอันสวยงามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อย่างนี้ แต่เป็นที่แน่ชัด แนร์สโบรอคือเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ผู้คน สถาปัตยกรรม และความมีชีวิตชีวาของธรรมชาติทที่ทำให้ผู้มาเยือนอย่างเราอดคิดถึงอีกไม่ได้ 

ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะได้กลับไปเยือน ไม่รู้ว่าอีกนานไหมเราจะไปดื่มด่ำดำดิ่งที่นี่อีกครั้ง เราเดินจากใจกลางตลาด มุ่งลงเนินเขากลับมาที่สถานีรถไฟ Knaresborough ก่อนขึ้นรถไฟกลับยอร์กเราแวะ The Mitre Inn ผับซึ่งมีบริการห้องพักอยู่ติดกับสถานี 

ที่นี่มีแท็บเบียร์จาก Brew York Craf Beer ที่ก่อตั้งโดยสองสหาย เวนย์ สมิธ และ ลี แกรปแฮม แม้โรงเบียร์ของสองหนุ่มนี้จะพึ่งตั้งได้ไม่นานเมื่อปี ค.ศ. 2016 แต่ดูเหมือนพวกเขาตั้งใจให้มันเป็นรสชาติแห่งยอร์ก ซึ่งแน่นอนว่ารสชาติเบียร์ของเขาไม่ธรรมดาเลย บางทีอาจจะดีกว่าดรงเบียร์หลายแห่งในลอนดอนเสียอีก

เราดื่มเบียร์กันคนละแก้ว ก่อนที่จะขึ้นรถไฟกลับยอร์ก และทิ้งเบื้องหลังเมืองงดงามแห่งนี้ด้วยความทรงจำ ภาพถ่าย และข้อเขียนนี้ เพื่อรอวันที่จะได้กลับมาเยือนอีกครั้ง

ดื่มด่ำกับ Brew York Beer
Niwat
ผู้เขียน
บรรยากาศในร้าน

ข้อมูลการเดินทางไป เที่ยว Knaresborough

เที่ยว Knaresborough
  • การเดินทางด้วยรถไฟ คุณสามารถเดินทางจากไป Knaresborough จากลอนดอน ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ปลายทางที่สถานีรถไฟยอร์ก ตั๋วรถไฟ London-Yorkซึ่งผมใช้บริการของ Trip.comในการจองรถไฟตลอดการเดินทาง นอกจากสะดวกรวดเร็วแล้ว ยังสามารถติดตามเที่ยวรถไฟที่เราจอง และยังช่วยติดตามการเดินทางระหว่างสถานี ทำให้เราไม่พลาดในการมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง จากนั้นต่อรถไฟจากยอร์กไปแนร์สโบรอ ใช้เวลา 40 นาที สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานียอร์กโดยตรง
  • การเดินทางในแนร์สโบรอ โดยหลักแล้วคุณสามารถเดินท่องเที่ยวได้ทั่วเมือง หากต้องการไปยังจุดหมายที่ไกลขึ้น รถสาธาระเช่นรถบัส และมีแท็กซี่บริการ
  • ภัตตาคาร ร้านอาหาร หรือผับท้องถิ่น กระจายตัวอยู่บริเวณกลางจัตุรัส 
  • ห้องน้ำสาธารณะมีบริการบริเวณทางเข้าปราสาทแนร์สโบรอด้านตัวเมือง

Related

Share15Tweet1Share
นิวัต พุทธประสาท

นิวัต พุทธประสาท

ผู้ก่อตั้ง สำนักพิมพ์ เม่นวรรณกรรม คว่ำหวอดอยู่ในวงการวรรณกรรมมามากกว่า 20 ปี เริ่มต้นเขียนหนังสือตั้งแต่ปี 2534 มีเรื่องสั้นลงตามหน้านิตยสารอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะก้าวมาเปิดสำนักพิมพ์

RelatedPosts

Dean Bridge
Travel Trip

Dean Village เอดินบะระ: คู่มือเที่ยวหมู่บ้านลับริมน้ำ (ฉบับสมบูรณ์ 2025)

June 20, 2025
18
The Jug & Bottle โรงแรมในลิเวอร์พูล ที่อยู่นอกเมือง
Travel Trip

The Jug & Bottle โรงแรมในลิเวอร์พูล ที่อยู่นอกเมือง

โรงแรม เซนเตอร์ พอยต์ ไพร์ม พัทยา (Centre Point Prime Hotel Pattaya)
Travel Trip

Review : The wave pool – Aloha Hawaii : Centre Point Prime Pattaya

Next Post
หนังสือสายพันธุ์ประหลาด! ชวนอ่าน 5 หนังสือ Weird Fiction

หนังสือสายพันธุ์ประหลาด! ชวนอ่าน 5 หนังสือ Weird Fiction

Before It Starts to Rain ก่อนพิรุณพรำกับยักษาแห่งความเป็นอื่น

Before It Starts to Rain ก่อนพิรุณพรำกับยักษาแห่งความเป็นอื่น

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ขาไก่หิมพานต์ แฮ่ แฮ่ ขาไก่หิมพานต์ แฮ่ แฮ่ ขาไก่หิมพานต์ แฮ่ แฮ่

Recent Posts

Before It Starts to Rain ก่อนพิรุณพรำกับยักษาแห่งความเป็นอื่น

Before It Starts to Rain ก่อนพิรุณพรำกับยักษาแห่งความเป็นอื่น

July 15, 2025
หนังสือสายพันธุ์ประหลาด! ชวนอ่าน 5 หนังสือ Weird Fiction

หนังสือสายพันธุ์ประหลาด! ชวนอ่าน 5 หนังสือ Weird Fiction

July 8, 2025
Knaresborough Viaduct

เที่ยว Knaresborough : เสน่ห์แห่งกาลเวลา ริมฝั่งแม่น้ำนิดด์

July 4, 2025
Steppenwolf เมื่อการค้นพบตัวเองคือ การดำดิ่งสู่ขุมนรกของจิตใต้สำนึก

Steppenwolf เมื่อการค้นพบตัวเองคือ การดำดิ่งสู่ขุมนรกของจิตใต้สำนึก

July 1, 2025
‘ยิ่งใกล้ชิดยิ่งห่างไกล?’ เมื่อความรักถูกล็อกดาวน์ใน Rabuka

‘ยิ่งใกล้ชิดยิ่งห่างไกล?’ เมื่อความรักถูกล็อกดาวน์ใน Rabuka

June 28, 2025
  • Gap.Bumseeker

    Let’s talk ! คุยกับ Gap.Bumseeker การเดินทางที่ไม่มีคำว่ากลัว

    7112 shares
    Share 2887 Tweet 1760
  • รีวิว EDIFIER W820NB Plus หูฟังไร้สาย ตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling รองรับ LDAC

    189 shares
    Share 76 Tweet 47
  • รีวิว กระทะเหล็กเผา ตาตีมือ รุ่นโปร

    143 shares
    Share 78 Tweet 27
  • 16 ข้อสังเกตที่นักเขียนควรรู้เกี่ยวกับบทพูดในชีวิตจริง : วิธีเขียนบทสนทนา ที่สมจริง

    102 shares
    Share 49 Tweet 22
  • High Fantasy vs. Low Fantasy: แฟนตาซีไหนดีกับใครบ้าง

    76 shares
    Share 36 Tweet 17
Hamlet Hamlet Hamlet
ADVERTISEMENT

About Us

Spike Logo

Categories

  • Article
  • Download
  • Interview
  • Literature
  • Music
  • Novel
  • Podcast
  • Poem
  • Review
  • Short Story
  • Sound
  • Sport
  • Travel Trip
  • Uncategorized
  • writing

Tag

Before It Starts to Rain bungo stray dogs Cigarettes After Sex Dream Pop existentialism features post Inio Asano Internship literature liverpool manga Medusa Music Orca Rabuka Review shoegaze short stories Short Story Short Story Season short story winter Sound steppenwolf travel trigger warnings weird fiction William Shakespeare การอ่าน คณะประพันธกรจรจัด คำเตือน ตำนานกรีก-โรมัน ท่องเที่ยว นิวัต พุทธประสาท บทกวี บทความ ฝึกงาน มันฮวา วรรณกรรม วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา หิมะแดง เครื่องเสียง เมดูซ่า เม่นวรรณกรรม เรื่องสั้น โคนัน

Review

The Jug & Bottle โรงแรมในลิเวอร์พูล ที่อยู่นอกเมือง

The Jug & Bottle

การนอนนอกเมืองลิเวอร์พูลนั้นไม่ได้ลำบากอะไรเลย โดยเฉพาะถ้าได้นอนโรงแรม Jug & Bottle ที่มีราคาสมเหตุสมผล มีประวัติยาวนาน สะอาด สวยงาม และไม่ควรพลาดเดินเดี่ยวที่ Heswall
รีวิว Rega Planar 1 : เครื่องเล่นแผ่นเสียง งบประมาณต่ำที่ดีที่สุด…ในโลก…ตลอดกาล?

Rega Planar 1

Rega Planar 1 เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงราคาประหยัดที่พัฒนามาจากรุ่น RP1 ด้วยการออกแบบใหม่ ใช้งานง่าย ปรับปรุงโทนอาร์ม RB110 และคุณสมบัติเด่นมากมาย เสียงของมันแม่นยำและมีพลัง ฿14000

© 2025 Spike Write - Premium News & Magazine blog by Spike Write.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In

Add New Playlist

  • Login
  • Sign Up
  • Cart
No Result
View All Result
  • Article
  • Review
  • Podcast
  • Fiction
  • Our Authors

© 2025 Spike Write - Premium News & Magazine blog by Spike Write.

This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy.
Are you sure want to unlock this post?
Unlock left : 0
Are you sure want to cancel subscription?
-
00:00
00:00

Queue

Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00