หลังจากการรอคอยสิ้นสุดลง ลิเวอร์พูลก็ได้ประกาศคว้าตัว ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ยอดกองกลางพรสวรรค์จากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน มาร่วมทัพอย่างเป็นทางการ การย้ายทีมครั้งนี้ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกล่าสุดของทัพ “หงส์แดง” และได้กลับมาร่วมงานกับเพื่อนซี้อย่าง เจเรมี ฟริมปง อีกครั้งในถิ่นแอนฟิลด์
และนี่คือบทสัมภาษณ์แรกของเขากับ Liverpoolfc.com ที่ศูนย์ฝึกซ้อม AXA ซึ่งจะทำให้เราได้รู้จักตัวตนและความคิดของเขามากขึ้น
1. บทสัมภาษณ์แรก: กับก้าวแรกในบ้านหลังใหม่ที่แอนฟิลด์

ฟลอเรียน ในที่สุดคุณก็ได้เป็นนักเตะลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง?
“ผมมีความสุขและภูมิใจมากครับ ในที่สุดทุกอย่างก็เรียบร้อย ผมรอคอยช่วงเวลานี้มานาน และผมดีใจจริงๆ ที่ได้มาอยู่ที่นี่”
แน่นอนว่าคุณมีทางเลือกมากมายในช่วงซัมเมอร์นี้ ทำไมถึงต้องเป็นลิเวอร์พูล? อะไรที่ทำให้ที่นี่คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ?
“ผมแค่รู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในอาชีพของผมที่จะก้าวไปอีกระดับ และแน่นอนว่าผมอยากจะย้ายไปอยู่กับสโมสรที่อยู่ในระดับท็อป 3 ของโลก และในความคิดของผม ลิเวอร์พูลก็คือหนึ่งในนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดที่นี่ ผมประทับใจในตัวผู้คนที่นี่ แนวทางของสโมสร และทุกสิ่งที่สโมเสนอมันยอดเยี่ยมมากจริงๆ สุดท้ายแล้ว มันจึงเป็นการตัดสินใจที่น่าตื่นเต้นสำหรับผมที่จะมาลิเวอร์พูลครับ”
หลังจากได้พูดคุยกับสโมสรแล้ว มันทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้นไหม?
“เอาจริงๆ มันก็ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายขนาดนั้นนะครับ เพราะผมเป็นนักเตะเยอรมัน เล่นให้ทีมชาติเยอรมนี แต่การได้พูดคุยกับโค้ช (อาร์เนอ ชล็อต), ริชาร์ด (ฮิวจ์ส) และทุกคนในสโมสรมันยอดเยี่ยมตั้งแต่วันแรก ทุกครั้งที่ผมได้คุยกับพวกเขา ผมยิ่งรู้สึกว่า ‘ที่นี่แหละคือที่ที่ผมอยากอยู่’ จนในที่สุดผมก็มั่นใจ 100% ว่าผมต้องการย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล และนี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด”

ครอบครัวของคุณว่าอย่างไรบ้างกับการย้ายทีมครั้งนี้?
“ผมคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นคนแรกในครอบครัวที่อินกับสโมสรนี้มากๆ ตอนที่พวกเขาติดต่อเข้ามา จริงๆ ผมไม่เคยคาดคิดว่าลิเวอร์พูลจะเป็นสโมสรต่อไปของผม แต่ครอบครัวก็สนับสนุนผมเต็มที่ โดยที่ผมไม่ต้องโน้มน้าวอะไรเลย ทุกอย่างมันดีมากๆ และผมเองก็อยากจะลองไปเล่นในลีกอื่นดูบ้าง ผมเชื่อว่าครอบครัวของผมก็จะมีความสุขที่ได้มาที่นี่ มาใช้เวลากับผม และเข้ามาชมเกมในสนาม พวกเขาจะต้องชอบมันแน่นอน”
คุณเคยบอกว่านักฟุตบอลจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อได้เล่นในระดับสูงสุด คุณคาดหวังที่จะพัฒนาตัวเองที่นี่หรือไม่?
“แน่นอนครับ นั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญเลย คือการที่ผมจะได้พัฒนาระดับการเล่นและสภาพร่างกายของตัวเองขึ้นไปอีก เพราะผมว่าทุกคนรู้ดีว่านักเตะของลิเวอร์พูลแข็งแกร่งอย่างกับเครื่องจักร แต่ผมมองว่านี่คือโอกาสที่ผมจะได้พัฒนาตัวเองในจุดนี้ให้ดีขึ้นเช่นกัน”
การได้ลงเล่นเจอกับลิเวอร์พูลเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
“มันเป็นเกมที่ยากมากๆ ผมยังนึกถึงเกมนั้นอยู่เลยตอนที่ได้คุยกับโค้ชและคนอื่นๆ มันเป็นตัวอย่างที่ดีเลยว่าการเล่นที่นี่เป็นอย่างไร เราแพ้ไป 4-0 เราต้องวิ่งเยอะมาก และแพ้ในการดวลแทบทุกครั้ง ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้ผมแค่อยากจะมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมนี้”
บรรยากาศจากแฟนบอลในคืนนั้นส่งผลต่อการตัดสินใจของคุณด้วยไหม?
“แน่นอนครับ ผมรู้ว่าแฟนบอลที่นี่น่าเหลือเชื่อมาก ผมได้เห็นภาพฉลองแชมป์และขบวนพาเหรดด้วย แต่ยอมรับว่าในเกมวันนั้นผมไม่ค่อยได้สนใจเสียงเชียร์เท่าไหร่ เพราะเรากำลังลำบากในสนาม! แต่ผมตั้งตารอที่จะได้ลงเล่นในสนามแห่งนี้เพื่อแฟนๆ ทุกคน มันจะต้องน่าตื่นเต้นมากแน่ๆ”
คุณได้พูดคุยกับเฮดโค้ช อาร์เนอ ชล็อต บ้างหรือยัง?
“การพูดคุยเป็นไปด้วยดีมาก ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่คุยกัน เขาแสดงให้ผมเห็นภาพการเล่นบางจังหวะว่าทีมต้องการจะเล่นแบบไหน และผมจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมได้อย่างไร เขาบอกว่าผมเป็นนักเตะที่เขาอยากได้มาร่วมทีมจริงๆ และจะช่วยยกระดับทีมขึ้นไปอีกขั้นได้”

คุณหวังจะนำคุณภาพอะไรมาสู่ทีมลิเวอร์พูล?
“หลายคนบอกว่าผมเป็นผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกม ผมก็หวังว่าจะนำความคิดสร้างสรรค์และความสนุกสนานในการเล่นฟุตบอลมาสู่ทีมได้ ผมจะพยายามทำแอสซิสต์, ยิงประตู และวิ่งช่วยทีมเพื่อเกมรับ หวังว่าผมจะช่วยทำให้ทีมดีขึ้นไปอีกระดับได้ครับ”
การได้กลับมาร่วมงานกับเพื่อนซี้อย่าง เจเรมี ฟริมปง เป็นอย่างไรบ้าง?
“ผมเล่นกับเขาน่าจะ 3-4 ปีได้ เขาเป็นนักเตะและเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นคนตลกที่สร้างบรรยากาศในห้องแต่งตัวเสมอ เขาเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูลก่อน เขาก็อยากให้ผมย้ายตามมาเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ตัดสินใจด้วยตัวเองเป็นหลัก สิ่งที่ต้องยอมรับคือ การมีเขาอยูที่นี่ก็อาจจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยโน้มน้าวผมในท้ายที่สุดครับ มันเป็นเรื่องที่ดีมากที่เราจะได้กลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้งในสโมสรที่ใหญ่ขึ้น ผมตั้งตารอที่จะได้ลงสนามพร้อมกับเขาอีกครั้ง”
จริงไหมที่เขาเป็นคนสอนภาษาอังกฤษให้คุณ?
“ใช่เลยครับ! เขาเป็นเพื่อนของผมในห้องแต่งตัว เขานั่งติดกับผมเลย และผมต้องพูดภาษาอังกฤษกับเขา ตอนผมเรียนจบใหม่ๆ ภาษาอังกฤษผมยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เขาก็สอนผมเยอะมาก ทำให้ผมกล้าพูดและพูดได้ดีขึ้น”
เป้าหมายสูงสุดที่คุณอยากทำให้สำเร็จกับลิเวอร์พูลคืออะไร?
“ผมอยากจะคว้าแชมป์ทุกรายการในทุกๆ ปี! แน่นอนว่าก่อนอื่นเราต้องทำงานหนัก ผมต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เป้าหมายของเราคือการประสบความสำเร็จ ฤดูกาลที่แล้วทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีก เป้าหมายของผมก็คือการคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง และไปให้ไกลกว่าเดิมในแชมเปียนส์ลีก ผมเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง”
สุดท้ายนี้ อยากจะฝากอะไรถึงแฟนๆ ลิเวอร์พูลที่รอการประกาศข่าวนี้อย่างใจจดใจจ่อบ้าง?
“ผมอยากจะขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนครับ ผมเห็นในอินสตาแกรมและทุกๆ ที่ว่าแฟนบอลอยากให้ผมย้ายมาที่นี่ ขอบคุณจริงๆ ครับ ผมตั้งตารอที่จะได้ลงเล่นต่อหน้าทุกคนและสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน ผมดีใจมากที่ได้มาที่นี่ และต้องขอโทษด้วยที่ให้รอนานนะครับ!”
2. เจาะลึกฟอร์มและสถิติ “เดอะ เมจิคเชียน”: ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ กับฤดูกาลประวัติศาสตร์ที่ เลเวอร์คูเซน

การย้ายตัวของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ มาสู่ลิเวอร์พูลนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย แต่มาจากผลงานอันน่าทึ่งในฤดูกาล 2023/24 ที่เขาเป็นหัวใจสำคัญพาทีม “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์บุนเดสลีกาแบบไร้พ่าย, แชมป์เดเอฟเบ โพคาล และเข้าชิงชนะเลิศยูโรปาลีก เขาได้รับการยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์คว้ารางวัล “นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของบุนเดสลีกา” ไปครอง ซึ่งนี่คือบทวิเคราะห์ฟอร์มและสถิติของเขาครับ
สไตล์การเล่น: มากกว่าแค่ตัวเลขในสนาม
เวิร์ตซ์ ไม่ใช่นักเตะที่วัดค่าได้จากสถิติเพียงอย่างเดียว สไตล์การเล่นของเขาเปี่ยมไปด้วยความมหัศจรรย์และประสิทธิภาพ นี่คือคุณสมบัติเด่นๆ ของเขา:
- เพลย์เมคเกอร์อิสระ (The Free-Roaming Playmaker):
- ตำแหน่งหลักของเขาคือ “หมายเลข 10” แต่เวิร์ตซ์มีอิสระในการเคลื่อนที่สูงมาก เขามักจะลอยหาพื้นที่ว่างระหว่างแผงมิดฟิลด์และกองหลังของคู่แข่ง (Half-spaces) เพื่อรับบอลและสร้างสรรค์เกม ทำให้คู่ต่อสู้จับทางได้ยากมาก
- มันสมองและวิสัยทัศน์ (Brain and Vision):
- นี่คือจุดเด่นที่สุดของเขา เวิร์ตซ์ มีวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอลที่เหนือชั้น เขาสามารถมองเห็นช่องที่นักเตะคนอื่นอาจมองไม่เห็น และจ่ายบอลทะลุช่อง (Through Ball) หรือบอลที่ทำลายแนวรับ (Line-breaking Pass) ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นที่มาของโอกาสในการทำประตูมากมาย
- การเลี้ยงบอลที่ติดเท้า (Exceptional Dribbling):
- ด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและความคล่องตัวสูง ทำให้เวิร์ตซ์ไปกับบอลได้อย่างยอดเยี่ยม เขาสามารถเลี้ยงฝ่าผู้เล่นในพื้นที่แคบๆ และเอาตัวรอดจากการเข้าปะทะได้ดี การคอนโทรลบอลของเขาเรียกได้ว่า “ติดเท้า” เหมือนมีแม่เหล็กดูดไว้
- การจบสกอร์ที่เฉียบคม (Sharp Finishing):
- เวิร์ตซ์ไม่ได้มีดีแค่การสร้างสรรค์เกม แต่ยังเป็นตัวสอดแทรกเข้าไปทำประตูที่อันตราย เขามีสัญชาตญาณในการหาตำแหน่งในกรอบเขตโทษและสามารถจบสกอร์ได้ทั้งเท้าขวาและซ้าย รวมถึงการยิงไกลจากนอกกรอบก็เป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ดของเขา
- หัวใจนักสู้ในเกมรับ (A Fighter’s Heart in Defense):
- สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากเพลย์เมคเกอร์แบบดั้งเดิมคือความขยันในการไล่บีบพื้นที่ (Pressing) เขาทำงานหนักเพื่อทีมในเกมรับ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับฟุตบอลสมัยใหม่ และเข้ากับสไตล์ของลิเวอร์พูลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
3. สถิติที่น่าทึ่งในฤดูกาล 2023/24 (รวมทุกรายการ)

ตัวเลขเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงผลงานระดับโลกของเขาในฤดูกาลที่ผ่านมา:
- จำนวนนัดที่ลงเล่น: 49 นัด
- ประตู: 18 ประตู
- แอสซิสต์: 20 แอสซิสต์
เมื่อจำแนกตามรายการแข่งขัน:
- บุนเดสลีกา:
- ลงเล่น 32 นัด
- ยิง 11 ประตู
- ทำ 12 แอสซิสต์
- ยูโรปาลีก:
- ลงเล่น 11 นัด
- ยิง 4 ประตู
- ทำ 4 แอสซิสต์
- เดเอฟเบ โพคาล (แชมป์):
- ลงเล่น 6 นัด
- ยิง 3 ประตู
- ทำ 4 แอสซิสต์
ขอบคุณภาพถ่ายจากเวบไซต์ Liverpool