Semi-Artice เรื่องนี้เกิดจากสถานการณ์จริงเกือบทั้งหมด การถือกำเนิดขึ้นมาของสตรีมมิ่งมิวสิกทำให้การฟังเพลงเปลี่ยนไป การฟังเพลงจากเทป ซีดี หรือแผ่นเสียง กลายเป็นอดีตและความหลัง แม้แต่แผ่น MP3 เถื่อน ยังไม่สามารถเอาตัวรอดในยุคที่สตรีมมิ่งกินตลาดเพลงเป็นส่วนใหญ่ อัลบัม รวมฮิต ของศิลปินมากมายในแผ่นเอ็มพีสามก็ไม่อาจฝืนการฟังแบบเพลงในแบบปัจจุบันไปได้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าแหล่งที่มาของดนตรีจะเป็นอย่างไร เราก็ฟังเพลงเช่นเดิม
ผม เมย์ และเวิ่น ขับรถออกต่างจังหวัด เราออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้า เพราะต้องไปให้ทันนัดหมายคุยธุระเรื่องทำเพจเวบไซต์เกี่ยวกับเกษตรอิทรีย์ที่บางคอแหลม
ระหว่างทางเราหิวโซเลี้ยวรถเข้ามาจอดในร้านข้าวขาหมูที่อยู่กลางทุ่ง บรรยากาศต่างจากร้านในเมือง มองออกไปเป็นเวิ้งน้ำ มีรถจอดอยู่สองสามคัน เราสามคนลงจากรถเดินเข้าไปในร้าน
ทันใดนั้นเสียงเพลง Massachusetts ของ Bee Gees ก็ดังขึ้น ทำให้ผมคิดถึงนวนิยายเรื่องหนึ่งของมูราคามิ ที่จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว ผมจำตอนที่ตัวเอกเข้าไปในแท็กซี่ แล้วเพลงของยานาเช็คดังขึ้น เขาเขียนเอาไว้ประมาณว่า “จะมีแท็กซี่กี่คนที่ฟัง ซินฟอเนียตตาของยานาเช็คยามรถติด”
![รวมฮิต Bee Gees](https://i0.wp.com/spikewrite.com/wp-content/uploads/2023/03/web-porcupine-557.jpg?resize=768%2C614)
ผมจึงโพล่งขึ้นมาว่า “จะมีร้านข้าวขาหมูกี่ร้านนะที่ฟังเพลงแมสซาซูเซตต์ ของ บีจีส์” ผมพยายามพูดแบบขำๆ
ระหว่างที่อาเจ็กอายุเหยียบหกสิบมารับรายการอาหาร ผมก็พูดว่าอาเจ็กนี่เขาคงฟังเพลงนี้จริงๆ
เมย์ทำท่าขึงขังใส่ผมแล้วพูดขึ้นว่า “ทีตอนไปทะเลคราวก่อน เธอบอกว่าเพลง Another Brick in the Wall ที่ได้ยินจากเวทีคอนเสิร์ตที่กำลังเก็บฉาก เขาเปิดจากแผ่นรวมฮิต” ไม่คิดว่าเธอยังจำเรื่องเก่าๆ ได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้วหลายเดือน ผมลืมไปหมดแล้ว แต่เมย์ยังจำได้
วันนั้นเราไปเที่ยวชายทะเลช่วงเทศกาล อาจจะหลังวันสงกรานต์สักสองสามวัน เวทีคอนเสิร์ตงานถนนคนเดินกำลังเก็บเครื่องไม้เครื่องมือ ไม่มีการแสดง ร้านขายของเหี่ยวเฉา ขยะกองอยู่ในทุกที่ ช่างไฟเปิดเพลงจากแผ่นรวมฮิตสร้างบรรยากาศระหว่างทำงาน เพลง Another Brick in the Wall ของ Pink Floyd ดังขึ้น ทำให้เราหยุดฟัง เป็นที่รู้กันดีว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ดังมาก เป็นเพลงไม่กี่เพลงของพิงค์ฟรอยด์ที่มีในคาราโอเกะ และที่สำคัญเป็นเพลงหนึ่งที่เมย์ชอบมาก ตอนที่เธอยังเป็นนักศึกษาฟังเพลงชุดนี้ทุกเช้าก่อนไปเรียน
ผมเดาเอาว่าช่างไฟน่าจะเปิดเพลงจากแผ่นรวมฮิต คำว่า “รวมฮิต” ของผมทำให้เมย์โกรธ เพราะไปลดคุณค่าคนที่ฟังเพลงนี้จากแผ่นรวมฮิต ผมคิดในใจว่ามันผิดตรงไหน ในเมื่อเขาก็เปิดเพลงของพิงค์ฟลอยด์จากแผ่นรวมฮิตจริงๆ เพลงต่อมาจาก Another Brick in the Wall ก็เป็นเพลงพ๊อพทั่วไปที่ฮิตในทศวรรษ 90 จะให้ผมคิดเป็นอื่นได้อย่างไร
“เธอตั้งใจจะลดคุณค่าความรู้สึกของฉัน” เมย์เถียงงอนๆ เธอพาลมาทางผมแบบเต็มๆ
นั่นทำให้ผมนิ่งอึ้งไปอีกหลายวินาที ตอนนี้ผมเริ่มคิดว่าตัวเองอยู่ในฉากนวนิยายของมิลาน คุนเดอรา สักเรื่อง อาจจะเป็น “ความเบาหวิวเหลือทนของชีวิต” ตอนที่โทมัสแพทย์ที่เชี่ยวชาญต้องกลายไปเป็นคนเช็ดกระจกตอนลี้ภัยการเมือง
![Pink Floyd](https://i0.wp.com/spikewrite.com/wp-content/uploads/2023/03/web-porcupine-558.jpg?resize=768%2C614)
“ในเมื่อเธอบอกว่าอาเจ็กนี่เขาฟังเพลงของบีจีส์จริงๆ ทำไมพิงค์ฟลอยด์ของฉันถึงเปิดจากแผ่นรวมฮิต”
จริงๆ แล้ว อาเจ็กก็ไม่ได้ฟังเพลงนี้ของบีจีส์จริงๆ แต่เพลงที่เปิดที่เราฟังร้องโดยนักร้องฟิลิปปินส์ โดยรวมเอาเพลงฮิตๆ ในยุคต่างๆ มาร้องใหม่ อาจจะพูดได้ว่าเป็นแผ่นโคเวอร์ที่เหมือนมากๆ บางเพลงร้องเพราะกว่าเจ้าของเพลงเสียอีก
ผมไม่ตอบเธอ แต่เถียงในใจแทน ผมจะรู้ได้ไงว่าใครฟังเพลงแบบไหน ถ้าผมเดินเข้าร้านกาแฟสตาร์บัค ผมคงไม่แปลกใจถ้าหากพวกเขาเล่นเพลงของไมลส์ เดวิส หรือ จอห์น โคลเทรน ผมไม่คิดหรอกว่าเด็กในร้านตั้งใจเปิดเพลงแจ๊ซ ไม่ใช่ผมเหยียดพวกเขานะ เด็กในร้านอาจจะรู้สึกรำคาญด้วยซ้ำว่าทำไมผู้จัดการถึงให้เปิดเพลงที่ฟังไม่รู้เรื่องแบบนี้ ผู้จัดการก็ไม่เกี่ยวหรอก แต่มันเป็นนโยบายของร้านว่าต้องเปิดเพลงแนวไหนเพื่อให้เข้าบรรยากาศ มันก็เหมือนเพลงที่เปิดในร้านยาโยอินั่นแหละ หรือเพลงที่เปิดในโลตัสสามพราน เธอจำตอนที่เราเดินซื้อของที่ฟู้ดแลนด์ตอนตีหนึ่งได้ไหม เพลงจากวงบิวตี้ฟูลเซาท์มันดังขึ้นมาจนเธอยังต้องหยุดฟังเลย เธอคงไม่คิดว่าเด็กที่เฝ้าเคาน์เตอร์เข้าไปเสียบแผ่นซีดีเพื่อเปิดเพลงนี้เองหรอกนะ สำหรับผมมันไม่ได้มีอะไรมากหรอก มันก็แค่เพลงที่ถูกเล่นขึ้นโดยบังเอิญ
โอเคผมชอบบรรยากาศร้านข้าวหน้าเป็ดข้างโรงหนังเฉลิมเกียร์ติที่ถูกรื้อทิ้งไปหลายปี ยิ่งเวลาที่ผมได้ยินเพลงของศรคีรี จากวิทยุทรานซิสเตอร์ ผมจำฝังใจบรรยากาศแบบนั้น แต่ผมไม่ได้คิดว่าไปลดความรู้สึกเธอด้วยคำพูดที่ว่า จะมีร้านข้าวขาหมูสักกี่ร้านเปิดเพลง Massachusetts มันออกจะเกินเลยไปหน่อย
“ผมแค่ล้อเลียนมูราคามิกับยานาเช็คเท่านั้น” ผมพูด เธอยังคงโมโห มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองยิ่งอยู่ในนวนิยายของมิลาน และลึกเข้าไปอีก ตอนนี้อาจจะเป็นตอนที่โทมัสรู้ว่าเทเรซ่าได้หอบเสื้อผ้ากลับบ้านเกิดเมืองนอน ส่วนเขากลายเป็นแค่เสือผู้หญิงที่กำลังหมดเขี้ยวเล็บ
“ผมไม่ได้สนใจหรอกว่าพวกเขาจะฟังเพลงเพราะอะไร ตั้งใจจะเปิดหรือเปล่า” ผมพูด “แล้วไม่เคยคิดจะไปลดคุณค่าความรู้สึกของใครด้วย”
“แล้วเธอรู้ได้ไงว่าอาเจ็กนี่ฟังเพลงบีจีส์จริงๆ แล้วเพลงของพิงค์ฟรอยด์เปิดจากแผ่นรวมฮิต”
นั่นสิ อาเจ็กร้านข้าวขาหมูเพียงแค่เปิดเพลงๆ หนึ่ง เราบังเอิญมาได้ยิน เขาอาจจะเปิดแค่เอาบรรยากศยุค 60 เท่านั้น ไม่ได้ชอบอะไรมากมาย
เวิ่นฟังเราเถียงอยู่นาน
“รวมฮิตกับเพลย์ลิสต์มันแตกต่างกันยังไง เดี๋ยวนี้เราฟังในไอจูน สปอติฟายเราก็ฟังจากเพลย์ลิสต์ทั้งนั้น”
เดี๋ยวนี้แผ่นเพลงรวมฮิตยังมีขายที่คลองถมอีกหรือเปล่า ทุกวันนี้เราฟังเพลงเป็นอัลบัมเหมือนเมื่อก่อนไหม หรือเราฟังจากยูทูป
เราหยุดเถียงกัน ข้าวขาหมูมาเสิร์ฟ ผมกับเมย์นั่งกินข้าวกันเงียบๆ
Comments 1